Posted on

WHO กำหนดเป็นครั้งเเรง “ภาวะหมดไฟ” ในการทำงานเป็นภาวะทางการเเพทย์

เมื่อทำงานที่เดิมเป็นเวลานาน เจอเรื่องราวเดิมๆในทุกวัน ไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้เติมพลังให้กับร่างกาย ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน  นั่นคือ เหตุผลหลักของการหมดไฟในการทำงาน

เมื่อทำงานที่เดิมเป็นเวลานาน เจอเรื่องราวเดิมๆในทุกวัน ไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้เติมพลังให้กับร่างกาย ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน  นั่นคือ เหตุผลหลักของการหมดไฟในการทำงาน ข้อมูลจาก เว็บไซต์เดอะสตาร์ มีรายงานอ้างอิงสำนักข่าวเอเอฟพี ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทำการบรรจุ “ภาวะหมดไฟในการทำงาน” (Burnout) ลงในคู่มือการจำแนกโรคระหว่างประเทศ (ICD-11) ซึ่งเป็นคู่มือสำหรับอ้างอิงในการวินิจฉัยโรคและประกันสุขภาพ ทำให้เป็นครั้งแรกที่ภาวะหมดไฟในการทำงาน ถูกจัดเป็นภาวะทางการแพทย์

โดยผู้เชียวชาญในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ที่กรุงเจนีวา มีการข้อกำหนดให้ภาวะหมดไฟในการทำงาน สมควรได้รับการจำแนกว่าเป็นโรคภัยทางการแพทย์ เนื่องจาก เป็นอาการที่เกิดจากความเครียดรื้อรังในการทำงาน ซึ่งไม่ได้รับการจัดการ สามารถแบ่งลักษณะอาการได้ 3 อย่าง คือ 

  • รู้สึกหมดแรงหรืออ่อนเพลีย
  • มีใจห่างเหินออกจากงาน รู้สึกต่อต้านหรือมีความคิดด้านลบต่องาน
  • ประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพลดลง  

ซึ่งคู่มือการจำแนกโรคที่ถูกร่างขึ้นในปี 2561 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ในเดือนมกราคม ปี 2565 ค่ะ สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกหมดไฟในการทำงาน ก็ต้องออกหาเเรงบัลดาลใจ ประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเติมพลังในการทำงาน ซึ่งการหาเเรงบัลดาลใจที่ดีที่สุดก็คือการออกท่องเที่ยวนั่นเองค่ะ

ที่มา : https://www.thestar.com.my/news/world/2019/05/28/who-recognizes-burnout-as-medical-condition/