ทริปนี้ขอหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง สู่ความเงียบสงบบนเกาะยาวน้อย อ่าวพังงา ที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ สายลม แสงแดด และเกลียวคลื่น ให้ธรรมชาติช่วยบำบัดทั้งกายและใจ ชาร์จพลังให้เต็มที่ ก่อนจะกลับไปลุยงานกันต่อ
เราเริ่มต้นที่การเดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต รับสัมภาระที่แบกมาจากกรุงเทพฯเรียบร้อย สิ่งที่มองหาต่อมาคงจะเป็นพนักงานที่จะมารับเราไปยังที่พัก โดยมีรถรับส่งจากสนามบินสู่ท่าเรือ ยอร์ช เฮเว่น มารีน่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที บอกเลยว่าการเดินทางมาภูเก็ตครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นกว่าครั้งไหนๆ เพราะที่เราจะไปพักกันนั้นต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปกัน เพียงแค่ถึงท่าเรือก็รู้สึกว้าวกับเลาจ์ที่รองรับนักท่องเที่ยวแล้ว ก่อนจะไปก็อดไม่ได้ที่ถ่ายรูปเล่นบริเวณท่าเรือที่มีเรือสปีดโบ๊ทจอดกันเรียงราย พร้อมแสงแดดที่ส่องสะท้อนพื้นน้ำใส
ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกันต่อด้วยสปีดโบ๊ทมุ่งหน้าสู่เกาะยาวน้อย เกาะอันงดงามในอ่าวพังงา เราใช้เวลาอยู่บนสปีดโบ๊ทประมาณ 50 นาที ก็มาถึงจุดหมายปลายทาง TreeHouse Villas รีสอร์ทสุดโรแมนติกบนหาดส่วนตัว ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันน่าตระการตา เงียบสงบเหมาะทั้งการมาเป็นคู่รักหรือครอบครัวที่ต้องการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน มาแค่พังงาก็เหมือนได้ไปถึงบาหลีแล้ว
ตัวบ้านพักที่เรามาพักนั้นเป็นวิลล่าสองชั้นที่มีสีเข้ากันกับป่าและทะเล โดยมีสะพานเชื่อมเข้าสู่ตัวบ้าน ชั้นล่างเป็นแบบเปิดโล่ง รับลมทะเลธรรมชาติโกรกอย่างสดชื่น นอกจากนี้ยังพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน และสิ่งที่เราตื่นเต้นเมื่อได้เห็นเป็นอย่างแรกเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในตัววิลล่าเลย คือ สระว่ายน้ำแบบ Plunge Pool ชวนให้อยากลองจุ่มเท้าลงไปดู แถมยังมี เดย์เบด และบาร์ส่วนตัวในวิลล่า ส่วนห้องนอนนั้นไม่ว่าจะตื่นมาบนเตียงขนาดแกรนด์คิงไซต์ท่าไหนมองไปทางไหนก็จะได้เห็นวิวธรรมชาติของอ่าวพังงาได้ 360 องศา พร้อมระเบียงเปิดโล่งให้ได้ออกไปยืนชมวิวกันแบบเต็มๆตาได้อีก ไม่ใช่แค่ห้องนอนที่วิวดี ภายในห้องน้ำยังมีอ่างน้ำดีไซน์พิเศษเป็นทรงเปลญวน เหมาะแก่การนอนแช่น้ำชมวิวทะเลเบื้องหน้าอันงดงาม และมีวิวเป็นภูเขาสีเขียวสูงใหญ่ รวมถึงเขาช้างหมอบที่อยู่ทางซ้ายของรีสอร์ท ถือเป็นเอกลักษณ์ของอ่าวแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เห็นทีกลับจากการตะลุยเกาะคงต้องขอลองนอนแช่น้ำ ชมวิวสวยๆผ่อนคลายดูแล้ว
เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็ขอสลัดผ้าเปลี่ยนชุดว่ายน้ำลงแช่สระส่วนตัวในวิลล่ากันหน่อย หลังจากเดินทางกันมาอย่างยาวนานครึ่งค่อนวัน การแช่น้ำในสระก็ช่วยให้หายเหนื่อยล้าไปได้บ้าง แถมยังมีวิวห้อมล้อมไปด้วยวิวต้นไม้ ช่วยให้สบายตาผ่อนคลายยิ่งขึ้นไปอีก พร้อมจิบเครื่องดื่มจากบาร์ส่วนตัว มันช่างเพลินอะไรขนาดนี้
เช้าวันใหม่เราพร้อมที่จะไปตะลุยทริปบนเกาะแล้ว นอกจากที่พักเราจะอยู่บนอุทยานแห่งชาติพังงา เรายังจะได้ไปเที่ยวกันที่ เกาะผักเบี้ย โดยการนั่งเรือจากที่พักมายังเกาะผักเบี้ย ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ น้ำใสมาก เหมาะแก่การลงเล่นน้ำมาก ใครอยากเล่นนำทะเล เราแนะนำที่นี่เลย หลังจากนี้ เราจะนั่งเรือออกไปชมประการังกัน อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นจากเกาะผักเบี้ยนั้นคือ ทะเลแหวก เมื่อน้ำลดลงสันทรายก็จะแหวกเป็นทางเดินแนวยาวจรดอีกเกาะหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าเกาะผักเบี้ยเช่นกัน แนะนำให้มาช่วงเช้าในตอนที่น้ำลดกัน นอกจากอากาศจะกำลังดีไม่ร้อนเกินไปแล้วนั้น ก็ยังจะได้เห็นทะเลแหวกสวยๆ ได้เดินทอดน่องบนหาดทรายขาว บอกเลยใครมากับแฟนต้องเป็นทริปที่โรแมนติกสุดๆไปเลย หลังจากเดินชมวิวบนเกาะผักเบี้ยจนพอใจแล้วนั้น ก็ถึงเวลาไปดำน้ำดูประการังกันแล้ว ใครที่ไม่เคยดำน้ำไม่ต้องกลัวไป เพราะเขามีผู้เชียวชาญเรื่องการดำนำแบบ Snorkelling ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาออกทริป เพราะเราจะได้เห็นปะการังสวยๆ ปลาตัวน้อยๆ แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางธรรมชาติใต้ท้องทะเลอันงดงาม
ตกเย็นหลังจากกลับจากออกทริปเกาะผักเบี้ย เราขอกลับมาทำตามสัญญาที่พูดไว้นั้นคือ การนอนแช่น้ำชมวิวท้องทะเล ผ่อนคลายหลังลุยกันมาทั้งวัน ได้นอนแช่น้ำสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางป่าไม่มีอะไรฟินไปกว่านี้อีกแล้ว ถ้าได้รับพลังงานจากธรรมชาติแบบนี้ทุกวันก็คงจะดีไม่น้อยเลยเชียว
เมื่อนอนแช่น้ำจนพอใจก็ถึงเวลาดินเนอร์ โดยเราจะเลือกดินเนอร์กันที่วิลล่าแบบส่วนตัว หรือใครอยากจะดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันที่ริมหาดก็ได้ เราเลยขอเลือกที่จะดินเนอร์ที่วิลล่าชั้นล่างของตัวเองแล้วกัน โดยเชฟจะมาเตรียมอาหารให้เรากันถึงที่ อยากได้เมนูไหนก็สั่งได้ตามใจเลย ไม่ว่าจะอาหารทะเล ของคาว ของหวาน เรียกว่าดื่มด่ำกับดินเนอร์นี้แบบสุดๆ หมดไปอีกหนึ่งวันของการพักผ่อนสุดแสนพิเศษ ก็ขอเอนตัวลงนอนบนเตียงแกรนด์คิงไซต์ ชมดาว ฟังเสียงคลื่นขับกล่อมให้ค่ำคืนนี้พิเศษกว่าคืนไหนๆที่ผ่านมาเลย
เช้านี้เป็นเช้าวันสุดท้ายที่สดใส เพราะเมื่อลืมตาตื่นมามองไปทางไหนก็เจอแต่วิวดีๆ ทำให้เรายิ้มออกกันแต่เช้า พร้อมอาหารเช้าสุดพิเศษที่ยังคงเป็นเชฟคนเดิมที่เตรียมไว้ให้เรา ช่างแสนสบายอะไรขนาดนี้ ขอแบบนี้ทุกวันเลยได้ไหม วันนี้ขอทำกิจกรรมแบบผู้หญิงๆ รีแล็กซ์ๆกันด้วยการโยคะหลังอาหารเช้าริมชายหาด สูดรับลมธรรมชาติเข้าปอดอย่างเต็มที่ ฟังเสียงคลื่นทำสมาธิช่วยให้จิตใจเราสงบมากยิ่งขึ้น แถมยังได้คลายกล้ามเนื้อจากการนั่งทำงานอีกด้วย จบกันที่โยคะก็ขอต่อกันที่การทำสปาอโรม่าทรีทเม้นท์ ผลัดผิวกายช่วยผ่อนคลายได้เยอะเหมือนกัน หรือใครที่ชอบการนวดแผนไทย ที่นี่ก็พิเศษแบบสุดๆ เพราะเราสามารถเรียกพนักงานให้มาช่วยนวดได้ถึงวิลล่าส์ส่วนตัว ที่พักที่ให้ความส่วนตัวขนาดนี้ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว
ใครที่มองหาที่พักสุดโรแมนติก สงบ และส่วนตัวแบบสุดๆ อยากให้ลองมากันที่ TreeHouse Villas @เกาะยาวน้อย แห่งนี้ สะดวกสบายทั้งรถรับส่งจากสนามบินมายังท่าเรือ สปีดโบ๊ทถึงที่พัก และที่ดีที่สุดคงก็คือที่พักที่พิเศษบนเกาะวิเศษแห่งนี้ ไปเถอะค่ะรับรองว่าคุณจะไม่ลืมประสบการณ์ดีๆแบบนี้อย่างแน่นอน