Posted on

Shirakawa-go หมู่บ้านมรดกโลก สวยทุกฤดู

ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านเก่าแก่ของญี่ปุ่น ที่สวยเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความฝัน หรือนิทานสักเรื่อง ด้วยความคลาสสิคที่ยังเป็นบ้านทรงโบราณดั้งเดิมไม่ได้ถูกเติมแต่ง ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นหมู่บ้านมรดกโลก โดยถูกขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกในปี 1995 ที่สำคัญคือไปฤดูไหนก็สวย

ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลกแห่งที่ 6 ของญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ตามแม่น้ำโชกาวะ เขตจังหวัดกิฟูและโทยาม่า ตอนกลางของเกาะฮอนชู หมู่บ้านแห่งนี้มีอายุเก่าแก่มากกว่า 200 – 300 ปี กระจายกันอยู่ตามที่ราบ ซึ่งมีถึง 16 หมู่บ้านด้วยกัน โดยบ้านเรือนที่นี่จะถูกออกแบบให้เป็นรูปทรงเรียกว่า “กัสโซ” เหมือนกับการพนมมือ มีหลังคาเอียง 60 องศา เพื่อรองรับช่วงที่หิมะตกหนัก ส่วนวัสดุที่นำมาใช้ก็เป็นวัสดุที่ได้มาจากธรรมชาติทั้งสิ้น ไม่มีการใช้ตะปูใดๆ เนื่องจากหมู่บ้านนี้อยู่ค่อนข้างไกลจากเมือง ทำให้ชาวบ้านที่นี่ยังคงใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมอยู่

แม้หมู่บ้านชิราคาวาโกะ จะเป็นหมู่บ้านที่ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่มาก แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าแก่อย่าง Wada House หรือ Kanda House พิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ไปจนถึงที่พักที่เปิดไว้บริการนักท่องเที่ยว และถ้าถามว่าควรไปช่วงไหนดี บอกเลยว่ามาได้ทุกช่วง เพราะหมู่บ้านแห่งนี้สวยงามทุกฤดูจริงๆ มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละช่วงจะเป็นยังไง มีอะไรให้เที่ยวบ้าง มาตามกันเลย

ชิราคาวาโกะ ไปช่วงไหนดี?

ฤดูหนาว ช่วงเดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์

ในช่วงฤดูหนาวที่หมู่บ้านแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนทั่วทั้งหมู่บ้าน เมื่อเข้าสู่ช่วงนี้ในทุกๆปี หมู่บ้านจะจัดกิจกรรมโดยการเปิดไฟในช่วงเวลากลางคืน แต่จะจัดเพียง 7 วันเท่านั้น ใครอยากมาชมความงามพร้อมบรรยากาศสุดโรแมนติก อย่าลืมเช็กข้อมูลก่อนมา รวมถึงเตรียมเสื้อผ้าหนาๆมาให้พร้อมด้วยนะ เพราะหนาวมากๆ

ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคม

ในฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นช่วงที่ดอกซากุระพร้อมใจออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นดอกซากุระเต็มไปหมด ถือเป็นช่วงที่อากาศกำลังดีเพราะไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป

ฤดูร้อน ช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคม

ใครชอบความเขียวชอุ่มดูสดชื่น ต้องมาฤดูร้อน เพราะต้นไม้ในหมู่บ้านจะเป็นสีเขียวสดใสคอยตอนรับนักท่องเที่ยวอยู่ และช่วงนี้เองชาวบ้านมักจะเปิดน้ำฉีดหลังคาให้ชื้นตลอด เพราะหลังคาทำมาจากฟาง ซึ่งถ้าอากาศร้อนมากๆฟางอาจติดไฟได้

ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือน กันยายน – พฤศจิกายน

ฤดใบไม้ร่วง เป็นช่วงที่ใบไม้สีเขียวๆเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีแดง ขึ้นไล่ระดับสีดูสวยงามไปทั่วทั้งหมู่บ้านอีกเช่นกัน เหมาะกับการมาถ่ายรูปสุดๆ ถือเป็นอีกช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงามของหมู่บ้านแห่งนี้

สถานที่ท่องเที่ยวในหมู่บ้าน

บ้านคันดะ (Kanda House)

บ้านคันดะ บ้านทรงโบราณที่ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยด้านในจะมีห้องแยก รวมถึงมีข้าวของเครื่องใช้ของเจ้าของบ้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อน โดยบ้านนี้จะดูหรูหรากว่าบ้านอื่น เนื่องจากเจ้าของบ้านเดิมทีเป็นคนที่มีฐานะ

บ้านวาดะ (Wada House)

บ้านโบราณวาดะ เป็นบ้านอีกหนึ่งหลังที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เช่นเดียวกับบ้านคันดะ ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกันแต่จะมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายกว่า และยังคงรักษาความดั้งเดิมไว้ได้มากที่สุด โดยบ้านหลังนี้จะเห็นถึงความเป็นอยู่ของชาวเกษตรกรท่องถิ่น รวมถึงภูมิปัญญาของคนโบราณในหมู่บ้านชิราคาวาโกะแห่งนี้เลย

วัดเมียวเซนจิ (Myozen-ji Temple)

วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 200 ปี และจะมีความแตกต่างจากวัดอื่นๆ เพราะเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบกัสโซซึคุริ ที่มีเอกลักษณ์ที่หาชมได้ยากมากๆในญี่ปุ่น แม้ตัววิหารหลักจะไม่ได้เปิดให้เข้าชม แต่หลังที่อยู่ติดกันนั้นได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ซึ่งในพิพิธภัณฑ์จะมีข้าวของเครื่องใช้ของพระสงฆ์รวมถึงของชาวบ้านที่ยังคงถูกรักษาไว้ในสภาพดี

ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮาจิมัง (Shirakawa Hachiman Shrine)

ศาลเจ้าเล็กๆที่ความเก่าแก่ไม่แพ้ตัวหมู่บ้านเลย โดยศาลเจ้าแห่งนี้ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมและโครงสร้างแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งนอกจากจะมีคุณค่าทางใจแล้วยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมด้วย ความพิเศษของศาลเจ้านี้ก็คือมี หอผลิตสาเกโดบุโรคุ ซึ่งเป็นสาเกที่หมักจากข้าวในหมู่บ้านแห่งนี้นั่นเอง และทุกๆ ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จะมีงานเทศกาลสาเก ถ้าใครอยากลองชิมสาเกของหมู่บ้านมรดกโลกก็ต้องมาให้ถูกเดือนด้วยนะ

จุดชมวิวเท็นชุคาคุ (Tenshukaku Observatory)

อีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดเมื่อมาหมู่บ้านชิราคาวาโกะ คือจุดชมวิวเท็นชุคาคุ เพราะจากมุมนี้คุณจะได้เห็นหมู่บ้านชิราคาวาโกะในมุมสูงได้ทั่วทั้งหมู่บ้านเลย ถ้าใครอยากขึ้นมาบนนี้มีอยู่ 2 วิธีคือเดินเท้า กับนั่งรถบัส แต่แนะนำให้นั่งรถบัสจะดีกว่า เพราะถ้าเดินจะใช้เวลานาน

ชิราคาวาโกะโนะยุ ออนเซ็น (Shirakawago no Yu)

รูปจาก : Hotel .info

ใครเดินเล่นชิลๆ แล้วอยากผ่อนคลาย อย่าลืมแวะมาแช่ออนเซ็นที่ ชิราคาวาโกะโนะยุ ออนเซ็นนะคะ เพราะเป็นบ่อออนเซ็นธรรมชาติที่มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง แถมวิวดีสุดๆ เพราะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโชกาวะได้ หรือถ้าใครอยากค้างคืนที่นี่ก็มีบริการที่พักอีกด้วยค่ะ

บรรยากาศในหมู่บ้าน

ร้านค้าในหมู่บ้านที่เปิดบริการนักท่องเที่ยว

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่หมู่บ้านเล็กๆใช่ไหมล่ะ แต่ในหมู่บ้านมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างเลย แค่มาดูความสวยงามของบ้านโบราณ และเดินเสพบรรยากาศก็คุ้มแล้ว อยากให้ลองไปเห็นด้วยตาตัวเองกันว่าหมู่บ้านแห่งนี้สวยขนาดไหน ที่สำคัญเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะไปฤดูไหนรับรองว่าไม่ผิดหวัง!

สนใจ / สอบถามทัวร์อื่น ๆ ได้ที่..
▪️Line กด-> https://lin.ee/5nDHUO6
▪️inbox ก็ได้เช่นกัน-> m.me/unithaitrip
☎️ 02-234-5936