” Osaka ” วันเดียวก็เที่ยวได้เด้อออ!

เคยมีความคิดเล่นๆที่ว่าอยากจะตีตั๋วไปญี่ปุ่น หาอะไรทานตลาดปลา แวะถ่ายรูปเล่น เช็คอินสถานที่คูลๆ ก่อนปิดท้ายด้วยเนื้อย่างบนเตาร้อนฉ่า และบินกลับไทยในวันนั้นแบบไม่ต้องลางานกันมั๊ย?

เคยมีความคิดเล่นๆที่ว่าอยากจะตีตั๋วไปญี่ปุ่น หาอะไรทานตลาดปลา แวะถ่ายรูปเล่น เช็คอินสถานที่คูลๆ ก่อนปิดท้ายด้วยเนื้อย่างบนเตาร้อนฉ่า และบินกลับไทยในวันนั้นแบบไม่ต้องลางานกันมั๊ย?

บินคุ้มคุณภาพครบกับนกสกู๊ต

– บินไปกับนกสกู๊ตแต่ไม่นกนะจ๊ะ นั่งสะดวกสบายกับเครื่อง Boeing 777-200 ER 415 seats สะดวกสบาย กว้างขวาง แอร์บริการเริ่ด ประทับใจแอดจริงๆ
– มาพร้อมกับเบาะที่นั่งที่สามารถเอนหลังได้ถึง 107 องศาและที่นั่งมีขนาดถึง 31 นิ้ว แอดนอนยาวๆไปรู้ตัวอีกทีก็ก้อถึงสนามบินคันไซละ Flight DMK > KIX กับนกสกู๊ต XW112 [23:40 -07:10] ซึ่งตั๋วโปรไฟไหม้เราซื้อจาก #Unithaitrip กับราคาสุดปัง จองผ่านไลน์ Unithaitrip แพ็คกระเป๋า เตรียมกล้องแล้ว เดินทางไปสนามบินดอนเมืองกันเลย 

โทรไปจอง Pocket Wifi ได้ที่ Noi Mobile Accessory for Everyone หรือ ให้ทาง#Unithaitrip จัดการจองให้ก็ได้ ไวไฟสามารถแชร์ให้เพื่อนใช้ได้ แถมยังเป็น Powerbank สำรองเวลาแบตมือถือใกล้จะหมดอีกด้วย 

แอดมาถึงดอนเมืองก่อนเวลาเครื่องออก 2 ชั่วโมง เลยแวะใช้บริการ #MiracleLounge เพียงแค่โชว์หน้าไลน์ Unithaitrip ก็รับส่วนลดไปเลยจ้า 10% โปรนี้สามารถใช้ได้ทั้งดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิก็ได้นะ

 

โซนบุฟเฟ่ต์ มีอาหารบริการเยอะมาก ทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ทานกันอิ่มแปล้ไปเลยย

หลังจากจัดเต็มกับอาหารชุดใหญ่แล้ว ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่องก็พร้อมตีตั๋วนอนยาวๆ ไปOsaka กันเลยยย 

Kansai International Airport (KIX) Friday,31 May : ถึงโอซาก้าแล้ว YeaH~

จาก Kansai Airport Station แอดเลือกที่จะนั่งรถไฟเข้าไปในเมือง ซึ่งจะมีอยู่ 2 เจ้าให้เลือกใช้ได้แก่ JR (Japan Rail) และ ​Nankai Line ซึ่งจะมีแบบด่วนพิเศษ (Express)และแบบธรรมดา โดยแอดเลือกใช้ Nankai แบบธรรมดาเพื่อเดินทางเข้าเมืองOsaka ราคาเพียง 920 เยนเท่านั้น นั่งเพลินๆเพียง 45 นาทีก็ถึง นอกจากนี้ยังมี Airport Limousine Bus เป็นอีก Option ให้เลือกจ้า

ตรงไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วใน Namba Information Center แล้วซื้อ Nankai pass เดินทางจาก Kansai Airport Station >> Namba Station กันเลยย

ถึงแล้วว Namba Station พร้อมตะลุย Osaka One day trip!!

ก่อนอื่น แวะซื้อ Osaka Amazing Pass กันก่อนที่บูธจำหน่ายตั๋ว (Kiosk)
เลือกแพ็คเกจแบบ One day ในราคา 2700 เยน สำหรับคนที่แพลนมาเที่ยวOsaka หลายวันก็สามารถเลือก Package 2 day หรือมากกว่าได้ ปล. ไม่สามารถใช้ร่วมกับ JR Line ได้นะจ๊ะ

หน้าตาของ Osaka Amazing Pass แบบ One Day Package ซองใส่ถูกออกแบบมาน่ารักเลยทีเดียว ในซองจะประกอบด้วยแผนที่เมือง Osaka, สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ และ ตั๋ว Osaka Amazing Pass เอาล่ะ พร้อมตะลุยโอซาก้ากันแล้ว

ออกจาก Namba Station มุ่งหน้าสู่ตลาดปลา จุดหมายสำหรับเช้านี้ อย่าลืมเปิดใช้งาน#SamuraiWifi แล้วตามพิกัด Google Maps ไปฝากท้องกันที่ตลาดปลากันเลยย

ทางเดินและร้านอาหาร Local ข้างทางระหว่างเดินไปตลาดปลา ชวนทำให้นึกถึงบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยโบราณมากๆ

ฝาท่อระบายน้ำกับลวดลายปราสาทโอซาก้าในช่วงดอกซากุระบาน ถือเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศิลปะและอารายธรรมญี่ปุ่นสมัยก่อนได้อย่างล้ำลึก

ฝาท่อระบายน้ำกับลวดลายปราสาทโอซาก้าในช่วงดอกซากุระบาน ถือเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศิลปะและอารายธรรมญี่ปุ่นสมัยก่อนได้อย่างล้ำลึก

แอดเลือกมาฝากท้องยามเช้าที่นี่ เนื่องจากมีอาหารทะเลสดๆให้เลือกหลากหลาย อาหารท้องถิ่นของโอซาก้า ยันเนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยม แถมการเดินทางมาก็แสนสะดวก

หอยทะเลสดๆ รวมถึงอูนิ (ไข่หอยเม่น) แค่เดินผ่านก็ได้กลิ่นความสดของทะเลลอยมาเตะจมูกแล้ว

ขาปูทาราบะ สามารถสั่งแล้วให้ทางร้านลวกให้สุกแล้วทานกันสดๆตรงนั้นเลย

หอย ละลานตาไปหมดดด >_<

แอดพามาเช็คระดับความสดถึงที่ รสชาติที่นี่เทียบเท่าระดับ Omakase บ้านเราเลยทีเดียว

อีกร้านนึงที่ต้องไปลอง “Onigiri <3 Burger” ร้านเบอร์เกอร์ข้าวปั้นสารพัดหน้าให้เลือกสั่ง ทีเด็ดของร้านคือเบอร์เกอร์ข้าวปั้นหน้าเนื้อโกเบPremium แอดเคยลองเมื่อทริปที่แล้ว บอกได้เลยว่าเนื้อ นุ่มละลายในปาก แทบจะขอเบิ้ลอีกชิ้นเลยทีเดียว

เดินไปเรื่อยๆชักหิวจริงจัง แอดเลยขอฝากท้องกับร้านนี้เลยละกัน[ Maguroya – Kurougin ] ร้านนี้เป็นร้านซูชิและซาชิมิชื่อดังในตลาดปลาโอซาก้า เน้นขายแค่ปลาแซลม่อนและทูน่า แบบเลือกระดับความมันได้ตามใจชอบ ข้าวหน้าปลาดิบก็มีขายนะ

ความสดและมันของปลาดิบที่นี่ ต้องบอกว่าสุดจริงงง

สตรีทฟู๊ดที่นี่เด็ดจริงๆ แอดสิทไม่ได้กล่าวไว้

ผ่านไปกับมื้อแรกของวัน พร้อมเดินทางต่อไปยัง Sky Building แลนด์มาร์กแห่ง Umeda Cityถึงแล้วว Umeda Sky Building จุดชมวิวสุดคูลแห่งโอซาก้า แอดเดินจาก Umeda Station ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

การออกแบบตึกที่นี่จัดว่าโมเดิร์นและมีความทันสมัยไม่แพ้โตเกียวเลยทีเดียว

มีพื้นที่คาเฟ่ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจชิลๆ จะสั่งกาแฟ ขนม หรือ เบียร์ก็ตามสบายเลย

ใครจะ Save water drink beer ก็ตามใจนะครัช อิอิ ที่นี่มี Crafted Beer ให้เลือกสรรเยอะมาก

มาชมบรรยากาศกัน ตรงเสามีบอกเวลาพระอาทิตย์ตกดินด้วยเกร๋ๆ เหมาะสำหรับคนที่มารอถ่ายแสงเย็นตรงนี้สามารถถ่ายรูปให้เห็นมุมสะท้อนกระจกด้านบนได้ ถ้ามาหลายคน ยืนถ่ายรูปหมู่ก็ชิคสุดๆ

ยังมีโซน Sky walk ให้เราขึ้นไปเดินเล่นชมวิว ชมบรรยากาศได้เพลินๆ

Osaka Cityscapes from 40th floor above the ground

เดินชม Umeda Sky Building จนเพลินแล้วก็ถึงเวลาที่จะมูฟไปแลนด์มาร์กถัดไปกับย่าน Shinsekai สุดชิค

ถึงแล้ว Shinsekai นั่งรถไฟมาง่ายๆ ขึ้นที่สถานี Dobutsuen-Mae Station

ย่าน Shinsekai หรือที่แปลว่า “โลกใหม่” เป็นย่านที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนสงครามและรกร้างมาหลายทศวรรษ มี หอคอย Tsutenkaku เป็นจุดเด่นสำคัญของเมืองเพื่อระลึกถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยก่อน

แวะแชะภาพสักหน่อยกับ หอคอย Tsutenkaku เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง แอดไปอ่านมาได้ความว่าเจ้าหอคอย Tstenkaku แห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่อจำลองหอไอเฟลของฝรั่งเศสในอดีต ต่อมาได้ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 และถูกสร้างใหม่อีกครั้งเพื่อรำลึงถึงความรุ่งเรืองในสมัยก่อน ด้านบนมีจุดชมวิวซึ่งอยู่สูงถึง 106 เมตรเลยทีเดียว!

เดินเล่นเพลินชักจะหิว แอดมีร้านราเมงทีเด็ดมาแนะนำ “Menya Taisei” ตามไปอร่อยกันเลยย

ร้านนี้มีเมนูให้เลือกมากมายในราคาไม่เกิน 1000 เยน

เลือกเมนูที่อยากทานได้แล้ว จ่ายตังค์ที่ตู้ รับบัตรแล้วส่งให้พ่อครัวแล้วรอทานได้เลยยยย

กลิ่นน้ำซุปที่เคี่ยวจนได้ที่ลอยมาเตะจมูก ขอบอกว่าอร่อยจนแอดต้องเบิ้ลอิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อ จุดหมายเราคือ ปราสาทโอซาก้า ซึ่งสามารถไปได้หลายทาง หากมาจาก Osaka Station ให้ลงที่
Osakajo-koen station หรือถ้าขึ้นจากสถานีอื่นก็สามารถลงที่ Tanimachi Yonchome station

ปราสาทโอซาก้ากินพื้นที่ค่อนข้างกว้าง แอดมาถึงเวลาประมาณบ่ายสาม เลยว่าจะหาคาเฟ่สวยๆน่ารักๆรอถ่ายแสงเย็นกับปราสาทโอซาก้า

บรรยากาศยามบ่ายๆ ในพื้นที่ปราสาทโอซาก้า

แอดขอแปลงร่างเป็น Cafe Hopper แพ่พ R-Baker ร้านกาแฟน่ารักๆใน Osaka Castle

 

• ฤดูชมซากุระ (24 มีนาคม – 8 เมษายน 2018)
  ตั้งแต่ 9:00 – 19:00 (เข้าได้จนถึงเวลา 18:30)
  
• โกลเด้นวีค (28 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2018)
  ตั้งแต่ 9:00 – 18:00 (เข้าได้จนถึงเวลา 17:30) 

Capture! x Travel Addict – ชีวิตติดเที่ยว

จุดนี้ก็ถ่ายรูปสวย ใช้กิ่งไม้ด้านบนเป็นเฟรมให้ภาพดูแน่นยิ่งขึ้น

บริเวณด้านในปราสาทโอซาก้าจะมีบ่อน้ำอยู่ เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้วเดินตามทางมาเรื่อยๆจนถึงสามแยก ให้สังเกตทางขวามือจะเห็นเป็นพุ่มไม้และสวน เลี้ยวขวาเข้ามาก็จะเจอบ่อน้ำตรงนี้ ถ่ายรูปคู่กับปราสาทโอซาก้าก็สวยไม่เบา

บางมุมถ่ายพาโนรามาก็สวยไปอีกแบบ ใบนี้แอดใช้เลนส์ Sony FE 24-105/4 G + Sony A7R Mark III ถ่ายพาโนแนวตั้งมาแล้วมาต่อใน Photoshop

พุ่มไม้และดอกไม้สวยๆ ใช้เป็นฉากหน้า (Foreground) เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเฟรมภาพได้

มาต่อกันกับอีกหนึ่งร้านเนื้อย่างทีเด็ด ITTO ที่ห้่ามพลาดด้วยประการทั้งปวง จากปราสาทโอซาก้าขึ้นรถไฟที่สถานี Tanimachiyonchome station ไปตาม Tanimachi line แล้วไปลงที่ Abeno Station เดินต่ออีก 15 นาทีก็ถึงจ้า ร้านสีเหลืองๆนี่แหละ!

ความเนื้อสดๆ แบบว่าร้านเนื้อย่างหลายๆร้านในโตเกียวยังแพ้

ความฉ่ำของเนื้อติดมัน ทำให้แอดสิทต้องอุทานว่า ตู้วหูวว มันสุดจริงๆ

แถมคุณภาพกับราคายังสมเหตุสมผล เรียกได้ว่าคุ้มจัดเลยขุ่นพี่ ใครยากนั่งต่อยาวๆก็ตามสบายเลยเพราะร้านเปิดถึงเที่ยงคืน แต่อย่าเผลอมาวันจันทร์นะ ให้ร้านเค้าปิดมั่ง5555

จัดหนักจัดเต็มแบบไม่ต้องสืบจริงๆกับมื้อนี้ Kimuchi~
แวะเซย์กู๊ดบายคุณลุงเจ้าของร้านซะหน่อย ก่อนเดินทางไปสนามบิน Kansai Airport

บรรยากาศรถไฟญี่ปุ่นยามค่ำคืน ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ

ถึงแล้ว Terminal1 ตอนเช้าเราจะมาเช็คอิน เพื่อบอร์ดดิ้ง #Nokscoot กลับบ้านเรากันที่เทอร์มินัลนี้

ใครยังไม่รู้ว่าในสนามบินคันไซตอนกลางคืนมีอะไรให้ทำบ่้าง ตามแอดสิทมา KIX Airport Lounge กันเลยย

KIX Airport Lounge จะอยู่เทอร์มินัล 1 ในนี้จะมีพื้นที่ให้พักผ่อนหย่อนกาย ไวไฟฟรี เครื่องดื่มไม่อั้น ใครอยากอาบน้ำแนะนำให้โทรมาจองก่อนดีกว่า ไม่งั้นจะได้คิวที่โคตรดึกเหมือนแอดแบงค์ได้ เรทราคาก็ตามป้ายด้านหน้าเลานจ์เลยจร้า

ระหว่างรอไฟลต์กับไทยดึกๆ เราก็สามารถไปฝากท้องที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง Lawson หรือ Mcdonald’s ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีโซนที่ชื่อ Area24 ที่เปิด 24 ชั่วโมงนะ

ตามกันไปดูทีเด็ดใน Aeroplaza กันบ้าง Aeroplaza จะอยู่ตรงทางเชื่อมระหว่าง Terminal 1 ไป Terminal 2

ถึงแล้วก็ตรงขึ้นไปชั้น 3 แอดจะพาไปโดนข้าวหน้าเนื้อทีเด็ดกัน “Matsuya Gyudon” ที่ฝากท้องยามดึกในสนามบินคันไซ เปิด 24/7 ไม่มีพักเลย

เมนูก็กับราคาก็จะประมาณนี้ สั่งเป็นเซ็ทคุ้มกว่านะจ๊ะ

ดึกๆใครหิวนี่ต้องมีจัดหนักกันแน่นอน กับความอร่อยเบอร์นี้ แอดคอนเฟิร์มว่าถ้าอยู่เบื่อๆรอเครื่องกลับไทยที่สนามบินคันไซตอนดึกๆ ก็มาโดนข้าวหน้าเนื้อ Matsuya ซะเถอะ

1 JUNE 19
07:45 น. ปิดจ๊อบโอซาก้าวันเดียวก็เฟี้ยวได้ แอดขอตีตั๋วนอนยาวๆกลับไทยกับ Nokscootล่ะ
ขอบคุณ #Unithaitrip และ #Nokscoot ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการที่ทำให้ทริปนี้เกิดขึ้นครับ