Posted on

OneDay In Osaka ญี่ปุ่นวันเดียวก็เที่ยวได้

เคยคิดเล่นๆไหมว่า “วันนี้อยากบินไปกินข้าวที่ญี่ปุ่นจัง” เพราะประเทศสุดฮิตอย่างญี่ปุ่น มากี่ครั้ง ซ้ำยังไงก็ไม่เบื่อ
แต่ใครจะรู้เที่ยวญี่ปุ่นในหนึ่งวันเนี่ย โคตรมันส์เลย เที่ยวง่าย ประหยัดงบ แถมไม่ต้องลางานซักวัน เชื่อไหมว่าเกิดขึ้นได้ ตามเรามาเถอะ!! You can do it!!

เคยคิดเล่นๆไหมว่า “วันนี้อยากบินไปกินข้าวที่ญี่ปุ่นจัง” เพราะประเทศสุดฮิตอย่างญี่ปุ่น มากี่ครั้ง ซ้ำยังไงก็ไม่เบื่อ
แต่ใครจะรู้เที่ยวญี่ปุ่นในหนึ่งวันเนี่ย โคตรมันส์เลย เที่ยวง่าย ประหยัดงบ แถมไม่ต้องลางานซักวัน เชื่อไหมว่าเกิดขึ้นได้ ตามเรามาเถอะ!! You can do it!!

ครั้งนี้เรามากันที่ “Osaka” อยู่ในภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โอซาก้าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศเลยล่ะ แถมการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองก็ง่ายมาก เพราะมีรถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัสไปถึงได้แทบทุกที่ที่สำคัญเราว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ครบทุกรสชาติ ทั้งเรื่องเที่ยว เรื่องช้อป และเรื่องกิน คือฟินที่สุดแล้วถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี สะดวกสบายสำหรับคนไทยมากค่ะ

แต่ก่อนมาญี่ปุ่นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม และศึกษาประเทศเขาก่อนเดินทางด้วยนะคะ 

  • สิ่งเเรกเลยที่ต้องรู้คือญี่ปุ่นไม่ต้องทำ Visa แต่อย่าลืม Passport!! (คนไทยฟรีวีซ่า 15 วัน) และPassport!! ต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนนะคะ
  • 100 เยน ประมาณ 28-30 บาท (ขึ้นอยู่กับเรท)
  • เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง
  • กระแสไฟฟ้า 110V ปลั๊กทรงแบน 2 ขา
  • อินเตอร์เน็ตนั้นสำคัญ เพราะรถไฟเยอะมาก เปิด Hyperdia หรือ Google Map หาสถานที่ที่จะไปได้เลย
  • และข้อสุดท้ายคนญี่ปุ่นน่ารัก ใจดี พร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวค่ะ

การเตรียมตัวระยะยาวเพื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นเราว่าใช้เวลานาน และเตรียมหลายอย่างเเล้ว การเตรียมตัวมาญี่ปุ่นในไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องยากยิ่งกว่า
– ออกตัวก่อนเลยเรามาญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ห้าแล้ว แต่ครั้งนี้มันส์สุด มากันแบบไฟไหม้มากกกก ไม่มีเพลนใดๆ ไม่รู้ตัวว่าจะต้องมา ตัดสินใจ 20 นาที กลับจากที่ทำงาน อาบน้ำแต่งตัว และหยิบกล้องออกมาสนามบินกันเลยค่ะ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การเดินทางใหม่มากๆ โอซาก้าหนึ่งวัน มาเช็คอินกินข้าวกันแบบชิคๆ

– สิ่งที่ต้องทำ คือ เตรียมพาสปอร์ต ชาร์จแบตกล้อง หยิบของใช้แค่ที่จำเป็นลงกระเป๋า เช็คสภาพอากาศ ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็ดูรีวิวหาข้อมูลที่เที่ยว ที่กิน ลองเสิร์จใน Google Map ว่าที่ที่จะไปห่างกันมากมั้ย เดินทางยังไง แต่อย่างที่บอกไปโอซาก้าเที่ยวง่ายมากค่ะ สนุกสนาน ในหนึ่งวันเก็บไปได้หลายที่เลย

เอาหล่ะ เรามาเริ่มต้นการเดินทางกันตั้งเเต่สนามบินกันเลย
– ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน NokScoot ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง จากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินคันไซ (Kansai International Airport : KIX) โดยเลือกไฟล์ทบินกลางคืน เพื่อไปถึงญี่ปุ่นตอนเช้าและเที่ยวต่อกันได้เลย ส่วนขากลับเราเลือกไฟล์ทเช้า มาถึงกรุงเทพประมาณเที่ยงกว่าๆ มีเวลาพักผ่อนก่อนกลับไปทำงานวันจันทร์อีกด้วย เรียกได้ว่า Flight Time ดีมาก ไม่ต้องลางานเพิ่มสักวันเลยค่ะ

 

– ที่ถูกใจมากๆ ก็คือขนาดเครื่องบินนี่แหละค่ะ NokScoot เครื่องบินลำใหญ่อย่าง Boeing 777 มาบินรูทนี้ ลำใหญ่นั่งสบายกว่าสายการบิน Lowcost เจ้าอื่นๆ ที่นังบนเครื่องจะจัดเป็น 3-4-3 โซนสีม่วงกับสีเหลืองต่างกันนิดหน่อยคือ สีเหลืองจะยืดขาได้เยอะกว่าปกติ ไม่ต้องกังวลว่าเข่าจะชนเบาะเลยค่ะ

– เดินทางมาญี่ปุ่น NokScoot เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลย บินไกล สบายกว่า ราคาคุ้ม โดยเฉพาะถ้าจองตั๋วไฟไหม้ผ่านทาง Unithai Trip ราคาไปกลับไม่เกิน 5,000 บาทเท่านั้นค่า

และไม่ว่าเราจะเดินทางกี่วันอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องที่สำคัญกับเรามาก แต่มาวันเดียว เราแนะนำเป็น Pocket WiFi จะคุ้มกว่าค่ะ มารอบนี้เราใช้บริการของ Samurai Wifi by BS mobile จองล่วงหน้าผ่าน UnithaiTrip ไปญี่ปุ่นราคาเพียงวันละ 145 บาทเท่านั้น แถมยังสามารถแชร์กับเพื่อนได้ด้วยค่ะ การรับ Pocket WiFi ก็ง่ายมาก ทางร้านจะโทรมาคอนเฟิร์มเวลาและสถานที่กับเราก่อน เมื่อไปถึงก็แค่แจ้งชื่อ-นามสกุล จากนั้นทางร้านจะสอนวิธีใช้งานให้ ไม่ยากเลยค่ะ

– ระหว่างรอขึ้นเครื่องเรามีเวลาประมาณสองชั่วโมง เรามาใช้บริการ Miracle Lounge ที่สนามบินค่ะ (มีทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิเลยนะ) ด้านในมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการแบบจัดเต็มเติมได้ไม่อั้น อาหารอร่อยนั่งกินได้เพลินๆ แถมยังมีโซนพักผ่อน สำหรับพักสายตาหรืออ่านหนังสือชิลล์ๆด้วยนะคะ แต่สำหรับเรานั่งกินจนลืมเวลาเลยค่ะ แป๊ปๆก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่า

– สำหรับการจอง MiracleLouge แนะนำให้แอดไลน์ @unithaitrip ไว้ได้เลยค่ะ นอกจากจะมีโปรฯเด็ดมาเรื่อยๆแล้ว ยังมีส่วนลดในการเข้า MiracleLouge ด้วยน๊า จองล่วงหน้าได้ 24 ชั่วโมง (ดอนเมือง จาก 600 เหลือ 499 บาท) แต่ถ้าจองไม่ทันก็ไม่ต้องกังวลเพียงโชว์หน้าไลน์ของ UnithaiTrip ง่ายๆ เท่านี้ก็ได้รับส่วนลดไปเลย 10% ค่ะ

ส่วนตัวชอบมากๆ เพราะไปทานข้าวในสนามบินก็ไม่ใช่ถูกๆเนอะ แต่นี่ทานได้ทุกอย่างเลยค่ะ มีทั้งอาหารไทยและเทศ สลัด เบเกอรี่ เครื่องดื่มต่างๆ รวมถึงเบียร์ ไวน์ วิสกี้ด้วยนะ คุ้มมากกกกกก

ตื่นมาตอนเช้าก็ถึงญี่ปุ่นแล้วค่ะ พร้อมเที่ยวต่อได้เลย!! เราถึงสนามบินคันไซประมาณ 7 โมงกว่า ทำอะไรเสร็จก็ประมาณ 8 โมง การเดินทางเข้าเมืองมีหลายวิธีมาก เราเลือกรถไฟด่วนพิเศษ Nankai Airport Express จะเป็นรถไฟแบบด่วนธรรมดา จะคล้ายกับกับรถไฟด่วนธรรมดาของ JR คือจะจอดหลายสถานีที่ผ่าน จึงใช้เวลานานกว่า แต่ราคาถูกกว่าด้วยเช่นกัน มีที่ขายอาหารเครื่องดื่ม มีห้องน้ำ และมีที่ว่างกระเป่า จากสนามบินคันไซ ไปที่สถานีรถไฟ Namba หรือตัวเมืองโอซาก้า ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ราคา 920 เยนค่ะ

ถึงแล้วว แอบไปแต่งหน้ามา

มาถึงนัมบะ เจออากาศดีมากกกก ไม่ร้อนไม่หนาว (แต่แอบครึ้มๆฝน)

เริ่มกันเลยค่ะ
ที่แรกที่เรามาคือ Kuromon Market (ตลาดคุโรมง) มาถึงก็ขอตามล่าหาอาหารกันเลย ที่นี่เป็นตลาดที่ได้รับสมญานามว่าเป็นครัวของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ เป็นทางเดินเล็กๆทอดยาวไปประมาณ 600 เมตร และสองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ ทั้งของสด และอาหารพร้อมทาน มีให้เลือกเยอะมากกกก ส่วนตัวชอบที่นี่มาก มาโอซาก้ากี่ครั้งต้องแวะมาค่ะ

เรามาถึงประมาณ 9 โมง ตลาดเพิ่งจะเปิดค่ะ บางร้านก็ยังเตรียมอาหารกันอยู่เลย

ร้านข้าวหน้าปลาดิบและซูชิที่แนะนำเลยค่ะ เดินตรงมาเรื่อยๆเลย ร้านอยู่ตรงหหัวมุมค่ะ หาไม่ยากเลย

โอโทโร่และแซลม่อนนนน  มาแล้วค่ะมื้อแรก เราจัดข้าวหน้าปลาดิบคนละจาน จานละ 1200 เยนค่ะ ฟินมากเวอร์ นี่คิดว่าบินมาก็คุ้มตั้งแต่ทานจานนี้แล้วค่ะ ^^

หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ เราจะไปต่อกันที่ปราสาทโอซาก้าค่ะ ถือว่าเป็นแลนมาร์คสำคัญเลย ต้องไปนะ แต่ระหว่างทางเดินไปสถานีก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ญี่ปุ่นนี่อะไรก็น่ารักไปหมดเลยค่ะ

Osaka Castle ปราสาทโอซาก้าที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของโอซาก้า และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮ็อตฮิตมาก นักท่องเที่ยวต้องแวะมาที่นี่ ไม่อย่างนั้นเหมือนมาไม่ถึงเลยล่ะค่ะ สามารถเลือกลงได้หลายสถานี แล้วเดินเล่นต่อจนถึงตัวปราสาท จะใช้เวลาเดินประมาณ 10-20 นาที สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานี Morinomiya ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและ JR

  • รถไฟใต้ดิน: เดิน 10 นาที จาก Tanimachi 4-chrome Station [Tanimachi Subway Line, Chuo Subway Line]
  • รถไฟ JR: เดิน 10-15 นาที จาก Osakajokoen Station [JR Loop Line]

โอซาก้าเป็นเมืองที่มีรถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัสไปถึงสถานที่เที่ยวได้แทบจะทุกที่ ครั้งนี้เราใช้ Osaka Amazing Pass ซื้อที่ Information Center สถานี Namba ได้เลยค่ะ ตอนนี้ราคาขึ้นเป็น 2700 แล้วน๊า สำหรับ Osaka Amazing Pass นี้เราว่าสะดวกสบายมาก สามารถขึ้นรถไฟ รถบัสในเมืองโอซาก้าได้ทุกสายไม่จำกัดครั้ง และยังสามารถใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ แลนด์มาร์กได้หลายจุดเลยค่ะรวมถึงปราสาทโอซาก้าด้วยนะ (ปกติค่าเข้าชม 600 เยน)

Osaka Castle ด้านหลังเค้ามีการแสดงกันอยู่ คนแยอะมากกก แนะนำจุดถ่ายรูปตรงโขดหินนี้เลยค่ะ บังคนได้อยู่นะ

ใครมาญี่ปุ่นอย่าลืมทานไอศครีมนะคะ อร่อยทุกที่เลย ที่ปราสาทโอซาก้าก็อร่อยค่ะ เราเลือกเป็น soft cream ราคา 550 เยนค่ะ (แต่ละลายเร็วมาก ถ่ายรูปแปีปเดียวไหลลงมือเลย)

Umeda Sky Building มาโอซาก้าทั้งทีขอขึ้นไปชมวิวพาโนรามาที่ Umeda Sky Building กันหน่อยค่ะ ถ้ามี Osaka Amazing Pass สามารถชมวิวได้ฟรี เพียงยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่สแกนบาร์โค๊ด (ราคาปกติ ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 12-17 ปี 500 เยน, เด็ก 6-11 ปี 300 เยน, เด็ก 4-5 ปี 100 เยน)

การเดินทาง

  • รถไฟ JR: ลงที่สถานี JR Osaka North Central Gate Exit เดินตรงไปจะเห็นทางเดินลอดทางรถไฟทางซ้ายมือ ให้เดินเข้าทางลอด ออกมาจะเจอกับตึก Umeda Sky Building รวมใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที
  • รถไฟ Subway: ลงที่สถานี Umeda (Midosuji Line) Exit 5 ให้เดินเข้าทางลอดรถไฟ ออกมาจะเจอกับตึก Umeda Sky Building รวมใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที

มุมชิคๆแบบนี้อย่าพลาดนะ แอบอยู่ตรงทางเข้าก่อนขึ้นดาดฟ้าค่ะ ซ้ายมือของจุดตรวจบัตรนะ

มา Umeda Sky Building อย่าลืมถ่ายรูปตรงบันไดเลื่อนนะคะ เก๋มากๆ แนะนำให้ถ่ายตอนจะลง รอจนบันไดเลื่อนว่างค่อยลงค่ะ

มาญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ต้องถ่ายภาพตู้กดน้ำกลับมา ยิ่งช่วงนี้กำลังอินกับ Pikachu ด้วยนะ น่ารักจังเลยยย

เที่ยวไปสองที่หิวกันอีกแล้วค่ะ  เรามาทานมื้อกลางวัน (ตอนบ่ายสอง) กันที่ย่านนัมบะค่ะ ร้านแรกคือ Ichiran ramen หรือราเมนข้อสอบสุดฮิตนั่นและค่ะ รอคิวประมาณ 30 นาทีได้ค่ะ คุ้มค่ากับการรอนะ ไปญี่ปุ่นต้องไปจัดนะคะ เปิด 24 ชั่วโมง  📌 4-16-13 Shinmachi, Nishi-ku, Osaka-fu, Capital Nishi-Nagahori 1F
ลงสถานี Namba station ทางออกที่ 14 เดินประมาณ 4นาที

ทานราเมนเสร็จแล้วเหมือนยังไม่สุดค่ะ 5555 มาต่อกันที่ร้าน Tayoshi Nankaidori
มาทั้งทีต้องกินให้คุ้มเนอะ ร้านอยู่ข้างๆราเมนเข้อสอบเลยค่ะ (หันหน้าเข้าราเมนข้อสอบ ร้านจะอยู่ซ้ายมือ) เป็นข้าวหน้าปลาต่างๆราคาไม่แพง เข้าร้านสิคะรออะไร จัดไปอีกคนละจาน จานละ 890 เยน อร่อย ดี ฟินมากกกก

ทานเยอะขนาดนี้ขอมาเดินย่อยกันหน่อยค่ะ Shinsaibashi แหล่งรวมที่ช้อป ที่กิน เราแวะมาทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ แลนด์มาร์กนี้จะพลาดไม่ได้

📌12-41 Nanbasennichimae, Chuo Ward, Osaka, 542-0075, Japan
ลง Namba Station ทางออก 14 ค่ะ

Sumiyoshi Taisha หนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และมีสะพานโค้งสีแดงที่ติด 1 ใน 100 ของวิวที่สวยที่สุดในคันไซ ส่วนตัวชอบที่นี่มาก รู้สึกว่าไม่ค่อยแมสเท่าไหร่ เงียบสงบ คนน้อย เหมือนได้ออกมานอกเมืองเลยค่ะ

การเดินทาง

  • รถไฟ: เดิน 5 – 10 นาที จาก Sumiyoshi Taisha Station [Nankai Main Line]
  • รถราง: เดิน 3 นาที จาก Sumiyoshikoen Station [Hankai Tramway]

ไฮไลท์ของที่นี่คือเจ้าสะพานโค้งสีแดง Sumiyoshi Sorihashi นี่แหละค่ะ ถ่ายภาพออกมาจะเห็นเป็นเงาสะท้อนน้ำ สวยงามมากกก

ไฮไลท์ของที่นี่คือเจ้าสะพานโค้งสีแดง Sumiyoshi Sorihashi นี่แหละค่ะ ถ่ายภาพออกมาจะเห็นเป็นเงาสะท้อนน้ำ สวยงามมากกก

Shinsekai  ย่านกลางคืนที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า มีหอคอยซึเทนคาคุ(Tsutenkaku)ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกนี้ตั้งอยู่ตรงกลางอีกด้วย ที่นี่จะคึกคักแบบสุดๆก็ช่องกลางคืน บอกเลยว่าร้านค้าเพียบ บริเวณนี้ยังมีถนนแคบๆที่เรียกกันว่า จันจัน โยโกะโช(Jan Jan Yokocho) ที่เป็นแหล่งรวมร้านกินดื่มสำหรับคนญี่ปุ่นด้วยนะคะ เดินแค่ 5 นาทีจาก Shin-Imamiya Station [JR Loop Line], Dobutsuen-mae Station [Midosuji and Tanimachi Subway Lines] และ Ebisucho Station [Tanimachi Subway Line]

Dotonburi และป้าย Glico ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งโอซาก้า ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

Yakiniku Iwasakijuku Namba
ร้านปิ้งย่างแบบ Local ราคาไม่แพงค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสถานีนัมบะ เราสั่งเซ็ต Popular 2343 เยน มีเนื้อหลายแบบเลย โดยรวมโอเคเลยแหละ ทานสองคนก็อิ่มพอดีๆนะคะ (จะไปกินร้านอื่นต่อ)

📌 3 Chome-1-26 Namba, Chuo Ward, Osaka, 542-0076, Japan (จากสถานีนัมบะ เดินประมาณ 3 นาที)
เปิดทุกวัน 17.00 -23.00 น.

ปล.จริงๆจะไปร้าน Shichirin-yakiniku Wakabaya Namba แต่ไปถึงแล้วร้านเต็ม ต้องรอเป็นชั่วโมงค่ะ อารมณ์ตอนนั้นคือหิวมาก นั่งร้องไห้หน้าร้าน T^T

มาต่อกันที่ Acchichi Honpo ทาโกะยากิ เจ้าดังแห่ง โอซาก้า ร้านนี้หาง่ายมาก ตั้งอยู่เชิงสะพาน Tazaemon-bashi Bridge ริมแม่น้ำ โดทมโบริ ( Dotonbori ) ทาโกะยากิแบบดั้งเดิมไส้หมึก โดดเด่นเรื่องความสดของหมึก ราคาชุดละ 500 เยน
เปิดทุกวัน : 09:00 – 02.00 น.
การเดินทาง : เดินจากป้ายไฟกูลิโกะ เพียง 3 นาทีเท่านั้น

มาคืนเดียวประหยัดงบที่พัก เราแนะนำให้นอนสนามบินเลยค่ะ จะมี Sleep Zone อยู่ที่ Terminal 2 ใน Aero Plaza เลย เดินเข้ามาเรื่อยๆ ห้องจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ เปิดบริการ 18.00-09.00 น. เป็นเก้าอี้เรียงๆกัน สามารถนอนได้ฟรีๆ แถมยังขอยืมผ้าห่มที่เค้าเตอร์ได้อีกด้วย อาจจะไม่สบายตัวเท่าไหร่แต่ก็ตัดงบที่พักไปได้เยอะเลยแหละ
 Shower Zone เป็นห้องอาบน้ำหยอดเหรียญให้บริการที่สนามบินค่ะ อันนี้คือดีมากๆ อยู่ติดกับSleep Zone เลยค่ะ วิธีการใช้คือหยอดเหรียญ 100 เยนไป 5 เหรียญ (500 เยน) แล้วกด Start ได้เลย จะมีเวลาให้ 15 นาที (สามารถกด Stop เพื่อหยุดพักได้ค่ะ) มีสบู่ ยาสระผมให้พร้อม แนะนำให้เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆติดกระเป๋าไปหน่อย จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มนะคะ

ปล.ด้วยความที่เป็นคนอาบน้ำเร็วมาก แต่เสียดายเงิน อาบไปรอบนึง เพิ่งหมดไป 3 นาที เลยอาบวนไปสามรอบ แต่ก็ยังเหลืออีก 8 นาที เลยเดินออกมาบอกแฟนว่าเราอาบไม่ครบเวลานะ ลองเข้าไปดูสิ เผื่อใช้ได้ สรุปใช้ต่อได้จ้า 500 เยน อาบได้ 2 คน เยี่ยมไปเลย!!
ถ้าหิวดึกๆก็หมดปัญหา เพราะหน้า Sleep Zone มี Burger King และ Lowson ที่เปิด 24 ชั่วโมงกันไปเลยค่า

มาเเจกแพลนเที่ยวโอซาก้าในหนึ่งวัน
– ถึง KIX ประมาณ 7 โมงกว่า
– ตะลุยตลาดปลา Kuromon ของกินเพียบ!! 📌
– เดินชม Osaka Castle และ Osaka Castle Park 📌
– ชมวิวเมืองที่ Umeda Sky Building 📌
– Ichiran Ramen (ราเมนข้อสอบ) สาขา Namba 📌
– Tayoshi Nankaidori Namba (เซตข้าวหน้าต่างๆ)
– เดินย่อยช้อปปิ้งย่าน Dotonbori, Shinsaibashi
– ชมศาลเจ้า Sumiyoshi Taisha (สงบเหมือนออกนอกเมือง) 📌
– ชมแสงสียามค่ำคืนย่าน Shinsekai
– Yakiniku Iwasakijuku Namba เนื้อย่างงงง
– Acchichi Honpo Dotonbori ทาโกะยากิ เจ้าดังแห่งโอซาก้า 📌
– ช้อปปิ้งย่าน Dotonbori, Shinsaibashi อีกรอบ
– นั่ง Airport Express จาก Namba กลับสนามบิน
– อาบน้ำนอนที่ Sleep Zone รอกลับไฟล์ทเช้า
– เช็คอินขึ้นเครื่องกลับประมาณ 6 เช้าสรุปค่าใช้จ่าย
– ตั๋วไฟไหม้ Nokscoot ไป-กลับ 4888 บาท 🔥🔥
– Osaka Amazing Pass (24Hrs) 2700 เยน
– Airport Express เที่ยวละ 920 เยน (ไปกลับ 1840 เยน)
– ค่าอาหารประมาณ 4000 เยน
(ปลาดิบ ราเมน เนื้อย่าง ขนมต่างๆ ได้กินหมด!!)
รวมๆแล้วบินไปเที่ยวชิลล์กินช้อปที่ญี่ปุ่นทริปนี้ ไม่เกิน 7000 บาทเท่านั้นค่ะ!!

รีวิวทริปญี่ปุ่นหนึ่งวันเป็นไปได้ 🎌🔥
เคยคิดแต่ไม่เคยทำ แต่วันนี้ได้ทำแล้วค่ะ เอาจริงๆเราว่าคุ้มนะ เที่ยวหนึ่งวันถ้าวางแพลนดีๆเก็บแลนด์มาร์กโอซาก้าได้เกือบครบค่ะ ไม่ได้เที่ยวแบบชโงกทัวร์ด้วยนะ ไปชิลล์ๆเรื่อยๆเอาเท่าที่ไหวค่ะ แถมยังได้ครบทุกรสชาต ได้เที่ยว ได้กิน ได้ช้อป ได้ถ่ายรูป ทริปนี้ยกให้เป็น The best ของปีนี้เลย ถ้ามีโอกาสอีกก็จะไปอีก (ที่อื่นบ้าง) เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก สนุกมาก มันส์มาก เดินเยอะมาก (35000 ก้าวเลยอ่ะ) สุดมากจริง!!! สุดท้ายนี้จองตั๋วโปรหรือทัวร์ไฟไหม้เป็นสิ่งที่น่าลองมากค่ะ ถ้าอยากรู้โปรเด็ดก่อนใคร แอดไลน์ Unithai Trip ไว้ได้เลย

คลิ๊ก bit.ly/2JRZPW9 รับประกันว่าคุ้ม!!!