หลาย ๆ คนที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น หรือมีแพลนกำลังจะไป อาจจะเคยได้ยิน Japan Rail Pass หรือเรียกสั้นว่า JR Pass กันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่รู้ว่าคืออะไร และมีประโยชน์กับการเดินทางอย่างไร วันนี้เราจะมาอธิบายแบบสรุปให้ฟังกัน ตามมาได้เลย
ประโยชน์ของบัตร JR Pass
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าบัตร JR Pass คือบัตรโดยที่เอาไว้ใช้เดินทางไปทุกพื้นที่ของญี่ปุ่น ใช้ได้กับรถไฟแทบทุกขบวน ตั้งแต่รถไฟสายท้องถิ่นจนถึงรถไฟความเร็วสูงหรือชินคันเซน รวมถึงรถบัส เรือเฟอร์รี่ (ที่ระบุในเงื่อนไข) ซึ่งทำให้เราเดินทางได้สะดวกสบายไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วทีละเที่ยว แค่มีบัตรใบเดียวก็ไปได้ทุกที่ ยิ่งถ้ามีแพลนเที่ยวหลายเมืองและต้องนั่งรถไฟชินคันเซนด้วยแล้วล่ะก็ การใช้บัตร JR Pass อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการซื้อแยกเป็นเที่ยว ๆ เพราะราคาค่อนข้างสูง ที่สำคัญบัตร JR Pass ยังใช้เดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชั้นคือ คือ Ordinary (รถไฟชั้นธรรมดา) และ Green (รถไฟชั้น1 ที่นั่งกว้างกว่า) โดย 2 ประเภทนี้ยังเลือกซื้อได้แบบ 7, 14 และ 21 วันอีกด้วย
จริงๆ บัตร JR Pass แบ่งแยกย่อยอีกหลายประเภท แต่วันนี้เราขอสรุปเฉพาะประเภทหลักให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้
ประเภทบัตร JR Pass แบบต่างๆ
JR East Pass (ฝั่งตะวันออก)
บัตรโดยสารที่จะครอบคลุมพื้นที่แถบฝั่งตะวันออกเป็นหลัก แบ่งตั๋วออกเป็น 3 ประเภท ทั้งจังหวัดในภูมิภาคคันโต และโทโฮคุ ซึ่งยังใช้นั่งรถไฟสาย Izu และ Nikko ได้อีกด้วย นับเป็นตั๋วเดินทางที่คุ้มค่ามาก สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ เช่น ปราสาทฮิโรซากิ , คุซัตสึออนเซ็น , คามิโคจิ , ปราสาทมัตสึโมโตะ และเมืองมรดกโลกนิกโก้ เป็นต้น
JR Hokkaido Pass (เกาะฮอกไกโด)
บัตรโดยสารที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วเกาะฮอกไกโด แต่ไม่รวมรถไฟชินคันเซน และรวมถึง JR Bus บางประเภทในฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ เช่น คลองโอตารุ , ลานสกีกาล่า ยูซาว่า , ซับโปโร , อาโอโมริ และเมืองดอกไม้ฟูราโนะ เป็นต้น
JR Kyushu Pass (เกาะคิวชู)
บัตรโดยสารที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วเหนือ-ใต้ หรือทั้งภูมิภาคของเกาะคิวชู สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ เช่น บ่อน้ำร้อนเบปปุ, ภูเขาอาโสะในคุมาโมโต้ หรือนั่งไปฟุกุโอกะ, นางาซากิ ก็ได้
JR Shikoku Pass (เกาะชิโกกุ)
บัตรโดยสารที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วเกาะชิโกกุ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเส้นอุด้งอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ เช่น เกาะอาโอะชิมะ , ศาลเจ้าโคโตฮิระกู , ปราสาททะคะมัทสึ , สวนริทสึริน และวัดชิคุรินจิ เป็นต้น
JR Central Pass (แถบภาคกลาง)
บัตรโดยสารที่จะครอบคลุมพื้นที่ในแถบภาคกลาง แบ่งตั๋วออกเป็น 4 ประเภท โดยเส้นนี้ถือเป็นเส้นทางที่มีมีจุดเช็คอินให้เที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านชิราคาวาโกะ , ปราสาทนาโกย่า รวมถึงสายธรรมชาติอย่างเส้นทางเจแปนแอลป์ ถือเป็นบัตรที่ตอบโจทย์สุด ๆ
JR West Pass (ภาคตะวันตก)
บัตรโดยสารที่จะครอบคลุมพื้นที่ในแถบตะวันตก หรือแถบคันไซเป็นหลัก แบ่งตั๋วออกเป็น 5 ประเภท มีเส้นทางระหว่าง โอซาก้า , โตเกียว , นารา , โกเบ รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ อย่าง โอกายาม่า , ฮิโรชิม่า เป็นต้น
JR All Area Pass (ทั่วญี่ปุ่น)
บัตรโดยสารที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เกาะทางใต้อย่างคิวชูไปจนถึงเหนือสุดอย่างฮอกไกโด เดินทางได้ทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และเข้าออกได้ทุกสถานีของบริษัท JR
สำหรับใครที่ลังเลว่าควรซื้อ JR pass ดีไหม แนะนำว่าถ้าใครที่เดินทางข้ามโซน เช่น ไปกลับ โตเกียว-โอซาก้า หรือระหว่างนี้มีแพลนจะแวะนาโกย่า , นารา การซื้อ JR pass ด้วยยังไงก็คุ้ม แต่ถ้าเที่ยวอยู่ในโซนเดียวไม่ได้แวะเที่ยวโซนอื่นอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่
ทั้งนี้แนะนำว่าวางแผนเที่ยวให้ดี และเลือกซื้อ JR pass ให้เหมาะสม จะทำใหเราประหยัดทั้งเราประหยัดทั้งเวลาและเงินในกระเป๋าได้เยอะ หรือลองคำนวนตั๋วรายเที่ยวต่อครั้งจากแอปฯ Japan Travel by Navitime ก็ได้ (เนื่องจากเว็บ Hyperdia ระงับการใช้บริการไปแล้ว ) เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่า
ใครมีแพลนเที่ยวญี่ปุ่น อยากซื้อ JR Pass เพื่อความสะดวกในการเดินทาง เที่ยวแบบไม่มีสะดุดในราคาถูกกว่าญี่ปุ่น เลือกซื้อกับ Unithai ได้เลยจ้า ราคาดีแน่นอน
🇯🇵รับจองบัตร JR Pass
➖แบบ 7 วันครอบคลุมหลายเส้นทาง
▪️ Line กด -> https://lin.ee/5nDHUO6
▪️ inbox ก็ได้เช่นกัน -> m.me/unithaitrip
☎️ 091-154-9999
☎️ 02-234-5936
เรารับ จัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัว ด้วยนะ
ทัวร์ไพรเวท Private จัดทริปส่วนตัว ทัวร์ดูงาน Incentive Tour
🔺ติดต่อแผนกจัดกรุ๊ปเหมา กรุ๊ปส่วนตัว กรุ๊ปบริษัท
▪️ Line กด -> CLICK
หรือแอดไลน์ @unithaibiggroup
☎️02-234-5936
☎️02-632-6882
กดได้ตั้งแต่ 201-208
**ขอความกรุณาติดต่อเฉพาะการจัดกรุ๊ปส่วนตัว กรุ๊ปเหมา เท่านั้น ไม่สามารถจองทัวร์หน้าร้านได้