ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรป เป็นประเทศที่มีรูปทรงคล้ายรูปรองเท้าบูต มีกรุงโรมเป็นเมืองหลวงที่อดีตเคยยิ่งใหญ่ ด้วยความสวยงามของภูมิประเทศที่รายล้อมไปด้วยทะเล รวมถึงมีสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าหลายแห่ง และสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ทำให้อิตาลีถูกยกให้เป็นนครแห่งศิลปะและเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่ง ว่าแต่จะมีที่ไหนเด็ดๆบ้าง ตามมาดูกันเลย
ถ้านึกถึงประเทศอิตาลีหลายคนคงนึกถึงผลงานศิลปะ ไม่ว่าจะด้านแฟชั่น งานออกแบบ รวมถึงความเจริญทางศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม ก็คงจะหนีไม่พ้น ‘อิตาลี’ แน่นอน เพราะล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์และความงดงามที่มีเสน่ห์ ถ้าใครที่ชื่นชอบงานศิลปะ อิตาลีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ รวมถึงมีสถานที่สวยๆให้เที่ยวมากมาย แต่ละที่บอกเลยว่าทั้งโรแมนติกและสวยราวกับภาพวาดเลยล่ะ จะมีที่ไหนบ้างมาดูกันเลย
มิลาน (Milan) เมืองแห่งการออกแบบและแฟชั่น
เริ่มกันที่มิลาน เมืองขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากโรม ถือเป็นศูนย์กลางของการคมนาคม เพราะมีรถไฟหลายสายจากประเทศอื่นในแถบยุโรปมายังที่นี่ นอกจากนี้มิลานยังขึ้นชื่อในด้านแฟชั่นและการออกแบบเป็นอันดับต้นๆของโลกด้วย ทำให้ที่นี่มีธุรกิจด้านแฟชั่นอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ทางศิลปะ และสถาปัตยกรรม เช่น มหาวิหารดูโอโม่ที่ใช้เวลาในการสร้างนานถึง 400 ปี เรียกว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
ฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรม
ฟลอเรนซ์ เป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนกลางของประเทศอิตาลีที่มีแม่น้ำอาร์โนไหลผ่านกลางเมืองและโอบล้อมด้วยภูเขา ถือเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางศิลปะยุคเรอนาสซองส์ ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม จิตรกรรม ที่อยู่ในพระราชวัง และตามจัตุรัสต่างๆที่มีคุณค่า จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1982 ถ้าย้อนกลับไปสมัยอดีตเคยมีตระกูลเมดิซีได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองการปกครองอยู่ในระหว่างศตวรรษที่ 13 -16 และได้อุปถัมภ์ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น กาลิเลโอ กาลิเลอี , ลีโอนาโด ดาวินซี ฯลฯ ภายหลังเมื่อตระกูลเมดิซีหมดอำนาจลง ผลงานศิลปะทั้งหมดจึงตกเป็นของเมืองฟลอเรนซ์ ต่อมาจึงเกิดเป็นพิพิธภัณฑ์กว่า 70 แห่ง และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้ที่รักงานศิลปะจากทั่วโลก
สะพานเวคคิโอ พระราชวัง Palazzo Vecchio
ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานเก่าแก่ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ ถึงแม้ที่เมืองนี้จะมีสะพานอยู่หลายที่ แต่ก็มีเพียงสะพานเวคคิโอเท่านั้นที่รอดพ้นจากการทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ความสวยงามของสะพานแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมและอาคารบ้านเรือนสีเหลืองโทนส้มอิฐ ที่ตั้งอยู่บนสะพานดูแล้วแปลกตา จนทำให้สะพานแห่งนี้กลายเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองฟลอเรนซ์
เวนิส (Venice) เมืองแห่งสายน้ำสุดโรแมนติก
เวนิส หรือ เวเนเซีย เป็นเมืองที่เป็นเกาะ ที่อยู่ห่างออกไปในทะเลเอเดรียติก ถูกยกให้เป็นเมืองที่มีคลองมากที่สุดในโลก ด้วยความสวยงามราวความฝัน ทำให้เวนิสเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวรวมถึงคู่รักที่ต่างยกให้เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ต้องมาให้ได้ เพราะมีกลิ่นอายของศิลปะหลากหลายยุคสมัย พร้อมกับมนต์เสน่ห์อย่างการนั่งเรือกอนโดลาชมสถานที่ต่างๆ ที่ต้องบอกเลยว่าโรแมนติกสุดๆ ยิ่งในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดินคือสวยมาก ซึ่งที่เวนิสแห่งนี้จะมีทั้งโบสถ์ วิหาร และร้านค้าเล็กๆตามซอกซอยต่างๆ รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์ศิลป์ที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งเป็นที่รวมผลงานศิลปะตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 14 จนถึง 18 ของศิลปินชื่อดังหลายคน จากทั้งหมดที่ว่ามาทำให้องค์การยูเนสโกยกเวนิสเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก
บูราโน่ (Burano) เกาะแห่งสีสันสดใส
และที่สุดท้าย บูราโน่ เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบเวนิส เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีสีจัดจ้านที่สุดในอิตาลีเลยก็ว่าได้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพต้องถูกใจแน่นอน เพราะมีมุมถ่ายรูปเยอะ นอกจากการท่องเที่ยวในเกาะแล้ว ที่นี่ยังมีร้านจำหน่ายสินค้า และร้านอาหารไว้บริการด้วย ส่วนของขึ้นชื่อคือลูกไม้ที่ทำด้วยมือซึ่งในอดีตเคยเป็นสินค้าที่ถูกส่งออกไปทั่วยุโรป แม้ปัจจุบันจะลดลง แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอยู่ วิธีการเดินทางก็ไม่ยาก ถ้าใครมาเวนิสก็นั่งเรือจากเวนิสมาบูราโน่ประมาณ 40 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ
ต้องยอมรับว่าอิตาลี มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามจริงๆ ถ้าใครได้ไปจะเห็นได้ว่าศิลปะอยู่รอบตัวเราเลย สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ และบรรยากาศสุดโรแมนติกแบบนี้ อิตาลีเป็นอีกประเทศที่พลาดไม่ได้จริงๆค่ะ
จอง #ทัวร์ยุโรป กับเราได้นะ✨
รวมทัวร์ยุโรป -> bit.ly/3w2CgzV
👉สนใจจอง / สอบถาม…
▪️จองผ่าน•Line กด-> https://lin.ee/5nDHUO6
▪️Line ID: @unithaitrip ( อย่าลืมเติม @ )
▪️จองผ่าน•inbox กดปุ่ม Send message ใต้ภาพ
☎️ 02-234-5936 ( จ.-ศ. 9.00-20.00)