ถ้าคิดถึงประเทศฝรั่งเศษ สิ่งแรกที่นึกถึงจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ “หอไอเฟล” หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศษ และเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญในการสื่อถึงความเป็นปารีสมากที่สุด ที่แห่งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยม เนื่องจากแต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามกันอย่างไม่ขาดสาย โดยชื่อไอเฟลมาจากชื่อผู้ออกแบบคือ กุสตาฟ ไอเฟล ที่นอกจากออกแบบแล้วยังเป็นคนแรกที่เดินขึ้นบันไดจำนวน 1,710 ขั้น เพื่อไปยังจุดสูงสุดของหอแล้วแขวนธงชาติ 3 สีของฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน
แรกเริ่มของการสร้างของหอไอเฟลนั้น เพียงเพื่อจัดแสดงชั่วคราวสำหรับงาน World Fair ปี 1889 เท่านั้น แต่ต่อมาจนถึงปัจจุบันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมไปด้วย
หอไอเฟลมีความสูง 300 เมตร ไม่รวมเสาอากาศอีก 24 เมตร มีลิฟต์ 2 ตัว และมีบันได 4 ด้าน แบ่งเป็น 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะเป็นส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงปารีส ชั้นที่ 2 จะเป็นร้านอาหารนานาชาติ และร้านค้า ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของกรุงปารีส ที่สวยทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าใครมีโอกาสไป ก็ลองขึ้นไปดูกันนะ บอกเลยว่าสวยมากๆ
หอไอเฟล ถือเป็นสถานที่ที่ควรแก่การมาสักครั้งในชีวิต มาได้ทุกช่วง เพราะไม่ว่าจะในฤดูไหนก็สวยแตกต่างกันไป นอกจากหอไอเฟลแล้วบรรยากาศรอบๆเมืองปารีสนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความคลาสสิคสุดๆ เพราะเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โรแมนติกแบบสไตล์ยุโรป ที่นอกจากนักท่องเที่ยวจะมาเก็บรูปตามมุมต่างๆทั้งบนหอไอเฟล และบริเวณรอบๆแล้ว ยังมีคู่รักอีกหลายคู่ที่นิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่ด้วยเช่นเดียวกัน
และรู้หรือไม่ว่า จริงๆแล้วหอไอเฟลเกือบต้องถูกรื้อถอนไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2452 แต่ด้วยความสูงตระหง่านของหอ ทำให้เอื้อประโยชน์เป็นอย่างมากในการใช้เป็นเสาส่งสัญญาณ ภายหลังจึงรอดพ้นการถูกรื้อถอนมาได้ และถึงแม้จะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในตอนแรก แต่ต่อมาก็ถูกพิสูจน์แล้วว่าหอไอเฟล เป็นความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศส เพราะนอกจากความสวยงาม ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกหนึ่งสถานที่ถ้าไปฝรั่งเศษแล้วพลาดไม่ได้เลยคือ พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) หรือในภาษาฝรั่งเศษเรียกว่า “Château de Versailles” เป็นพระราชวังหลวงที่ตั้งอยู่ในเมืองแวร์ซายส์ ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส ถูกสร้างขึ้นมาจากพระประสงค์โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครอง ด้วยความสวยงามและเป็นสถานที่สำคัญ ทำให้พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี 1979 จากองค์การยูเนสโก และถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันด้วยนะ
พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ภายในแบ่งออกเป็นหลายห้องเช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ เป็นต้น ซึ่งแต่ละห้องถูกตกแต่งอย่างหรูหราเช่น โคมไฟระย้า หรือ แชนเดอเรีย ในทุกๆจุด อีกทั้งยังมีภาพเขียนตามผนังที่มีชื่อเสียง ทำให้ถูกยกย่องว่าพระราชวังแห่งนี้ เป็นที่รวบรวมเอกลักษณ์แห่งศิลปกรรมของฝรั่งเศสที่ทรงคุณค่า
พระราชวังแวร์ซายส์ ไม่ได้เปิดให้เข้าชมได้ตลอดเวลานะคะ แต่จะมีเวลาเปิดปิดตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:30 น. แต่ช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม จะเปิดปิดตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:30 น. ใครอยากเข้าไปดูความอลังการภายในของพระราชวัง ก็อย่าลืมเช็กเวลาก่อนไปกันดีๆล่ะ
ฝรั่งเศษยังมีสถานที่น่าสนใจอีกเยอะ สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปแต่อยากไปสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติก และความคลาสสิคของเมือง ลองเก็บฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง รับรองว่ามาแล้วจะต้องประทับใจอย่างแน่นอนค่ะ
เรามีทัวร์ฝรั่งเศษด้วยนะ
🅿️กดดูโปรแกรม-> bit.ly/3oOsqPE
👉สนใจจอง / สอบถาม…
▪️จองผ่าน•Line กด-> https://lin.ee/5nDHUO6
▪️Line ID: @unithaitrip ( อย่าลืมเติม @ )
▪️จองผ่าน•inbox กดปุ่ม Send message ใต้ภาพ
☎️ 02-234-5936 ( จ.-ศ. 9.00-20.00)