Posted on

ไปไต้หวัน ทำไมต้องล่องเรือ ทะเลสาบสุริยัน-จันทรา

ไปไต้หวันทีไร ใครๆก็บอกว่าต้องไปล่องเรือทะเลสาบสุริยัน จันทราให้ได้นะ แล้วทะเลบาสที่นี้มีอะไรทำไมต้องไป วันนี้ Unithai จะนำไปทำความรู้จักกับที่นี้กันนะคะ

ไปไต้หวันทีไร ใครๆก็บอกว่าต้องไปล่องเรือทะเลสาบสุริยัน จันทราให้ได้นะ แล้วทะเลบาสที่นี้มีอะไรทำไมต้องไป วันนี้ Unithai จะนำไปทำความรู้จักกับที่นี้กันนะคะ

ทะเลสาบสุริยันจันทรา หรือที่รู้จักกันในนาม Sun Moon Lake  ตั้งอยู่ในเมืองหยูชี (Yuchi) เขตหนานเถา (Nantou) เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไต้หวัน มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 5.4 ตารางกิโลเมตร บริเวณรอบๆจะเต็มไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่มากมาย หากได้ลองนั่งเรือชมทะเลสาบจะเห็นว่าทะเลสาบแห่งนี้นั้นกว้างใหญ่  เเถมที่นี้ยังมีชื่อเสียงด้านความสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิสเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน” 

ทำไมชื่อ Sun Moon Lake
ก็เพราะ ลักษณะรูปร่างของอ่าว ที่ด้านตะวันออกจะมีรูปร่างคล้ายพระอาทิตย์ และฝั่งด้านตะวันตกจะมีลักษณะคล้ายพระจันทร์ คนพื้นเมืองจึงเรียกว่า zintun แต่ต่อมานักเขียนนามว่า Deng Chuan-an ก็ได้เขียนบทความเรื่อง Travels to Shueilishe และได้เอ่ยถึงทะเลสาบแห่งนี้ โดยใช้ชื่อว่า Sun Moon Lake นักท่องเที่ยวจึงเรียกตามนั้นเป็นต้นมา

ทะเลสาบสุริยันจันทรา ตั้งอยู่สูงเหนือกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 748 เมตร ล้อมรอบไปด้วยแนวเทือกเขาสูงใหญ่ ไล่ไปความสูงตั้งแต่ 600-2,000 เมตร โดยรอบของทะเลสาบไม่มีอาคารบ้านเรือนแออัด ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวว่ายน้ำในทะเลสาบ รวมทั้งมีการควบคุมเรือนำเที่ยวในทะเลสาบอย่างเคร่งครัด จึงทำให้น้ำในทะเลสาบมีสีเขียวมรกตใสแจ๋ว สะอาดสะอ้าน

ยิ่งมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่โดยรอบยิ่งทำให้อากาศที่นี่เย็นสบายตลอดทั้งปี อากาศจะบริสุทธิ์สดชื่น ยามเช้าจะมีหมอกลอยละล่องเหนือทะเลสาบอย่างสวยงาม ยามค่ำคืนก็ยังจะเห็นดาวมากมายบนฟากฟ้า สวยงามขนาดนี้ จะไม่ยกตำแหน่งทะเลสาบที่สวยที่สุดในไต้หวันให้ได้อย่างไร

ชนพื้นเมืองตำนานน่าค้นหา

ก่อนที่ทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและมีนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาเข้ามาเยี่ยมเยือน ที่นี่ได้เป็นบ้านของคนพื้นเมือง ซึ่งเรียกว่ากันว่า ชาวเซ้าจู๋ ที่แปลว่าความสุข ความงดงามดั่งสวรรค์ มีตำนานเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ชาวเซ้าจู๋ได้เดินตามกวางสีขาวผ่านหุบเขามาเรื่อยๆ จนพบกับทะเลสาบสุริยันจันทรา ซึ่งเป็นดินแดนที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์มาก ๆ จึงได้ตั้งรกรากสร้างบ้านเรือนเล็ก ๆ อาศัยอยู่โดยรอบทะเลสาบแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน

โดยในปัจจุบันชนเผ่านี้มีจำนวนเหลือน้อยที่สุดในไต้หวัน เหลือเพียง 200-300 คนแต่ยังคงมีปะรเพณีเเละวัฒนธรรมที่น่ารัก อย่างการร้องเพลงชนเผ่า ที่รื่นหูเเละฟังง่าย การเป็นอยู่ก็อยู่อย่างเรียบง่าย การมาล่องเรือที่นี้จึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลย เพรานอกจากความสวยงามเเล้วยังมีตำนานที่น่าสนใจ เเถมที่นี้ยังเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่ห้ามพลาดเลยของไต้หวัน

ตั๋วเรือจะมี 2 ราคาคือ

  1. ราคาแบบเหมา 300 เหรียญไต้หวัน (NT$) สามารถเดินทางไปมาได้ทั้ง 3 ท่าเรือ
  2. ราคาต่อท่าเรือ จะอยู่ที่ 100 เหรียญไต้หวัน (NT$) ต่อหนึ่งท่าเรือ

ส่วนด้านหลังของตั๋วเรือจะแสดงตารางเวลาที่เรือออกจากแต่ละท่าไว้เรียบร้อยแล้ว

ท่าเรือของทะเลสาบสุริยันจันทรา

  • ท่าเรือ Shueishe จุดขึ้นเรือแรกของเราตั้งอยู่ใกล้กับ Visitor Center ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดเหวินอู่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเพื่อแวะเที่ยวชมและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
  • ท่าเรือ Syuanguang เป็นที่ตั้งของวัดพระถังซัมจั๋งจุดท่องเที่ยวสำคัญของทะเลสาบสุริยันจันทรา สามารถเดินขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเที่ยวชมความสวยงามของวัด แวะถ่ายรูปกับก้อนหินแกะสลักชื่อทะเลสาบ (日月潭) จุดเช็คอินยอดฮิต
  • ท่าเรือ Itashao ใกล้กับสถานี Sun Moon Lake Ropeway Station จุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้า (ค่าบริการเที่ยวละ 300 เหรียญไต้หวัน (NT$) ต่อคน เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 16.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาทีต่อเที่ยว) เพื่อชมวิวทิวทัศน์รอบทะเลสาบแบบมุมสูงหรือจะเข้าชมหมู่บ้านวัฒนธรรมอะบอริจินฟอร์โมซาน หมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตชาวเขาพื้นเมืองของไต้หวันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1986 รวมทั้งเป็นแหล่งรวมกิจกรรมอีกหลายอย่างไว้บริการนักท่องเที่ยว อาทิ สวนสนุก สถานที่จัดแสดงโชว์และสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ค่าเข้าชมคนละ 780 เหรียญไต้หวัน (NT$)