เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปในประเทศที่ต้องทำวีซ่า ไม่ว่าจะเป็นในเอเชีย อย่างจีน อินเดีย และประเทศในแถบยุโรป ซึ่งในการขอวีซ่าแต่ละครั้ง หากท่านไม่สามารถแสดงหลักฐานต่างๆ ให้สถานทูตพึงพอใจในวัตถุประสงค์ของการยื่นขอวีซ่าประเภทนั้นๆ ก็อาจทำให้วีซ่าไม่ผ่านได้ ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้วีซ่าไม่ผ่าน Unithai ได้รวบรวมปัญหาและการแก้ไขมาให้แล้ว ตามมากันเลย
มาเริ่มที่ปัญหาหลักๆ ที่ทำให้วีซ่าไม่ผ่านกันนะคะ
- เอกสารไม่ครบ หรือ ยื่นเอกสารปลอม มีแอบแฝงวัตถุประสงค์อื่นในการขอวีซ่า ในข้อนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยค่ะ ซึ่งในการเตรียมเอกสาร เราต้องทราบก่อนว่าในการยื่นครั้งนั้นเรายื่นที่สถานฑูตไหน ซึ่งเอกสารในการขอวีซ่าที่ใช้ก็จะเป็น
- พาสปอร์ตตัวจริง ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันยื่นขอวีซ่า และมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากระยะเวลาที่ได้ระบุไว้ในคำร้อง (ถ้ามีเล่มเก่า ให้ติดไปด้วย)
- รูปถ่าย 2 ใบ ขนาด 2 นิ้ว ฉากหลังสีขาว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (บางประเทศกำหนดรายละเอียดขนาดของรูปค่อนข้างละเอียด ควรศึกษาที่เว็บไซต์ของสถานทูตเป็นหลัก)
- หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ โดยต้องระบุตำแหน่ง วันที่เริ่มงาน เงินเดือน ช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลา (ซึ่งต้องครอบคลุมวันที่เราจะเดินทาง ถึงวันที่กลับมา) พร้อมลายเซ็นและตราประทับบริษัท ซึ่งหากใครเป็นเจ้าของกิจการ ให้ใช้ใบจดทะเบียนการค้า/ ใบจดทะเทียนบริษัท พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนผู้ที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษาก็ขอหนังสือรับรองสถานภาพนักเรียน นักศึกษา(ภาษาอังกฤษ) ที่ออกโดยทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
- เอกสารรับรองสถานภาพทางการเงิน เพื่อยืนยันถึงความสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในระหว่างการพำนักอยู่ในกลุ่มประเทศเชงเก้นได้ โดยหลักควรเตรียม Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของบัญชี โดยสามารถไปยื่นขอเอกสารได้ที่ธนาคาร แจ้งว่าเพื่อขอวีซ่าเชงเก้น อาจพกสมุดบัญชีตัวจริงและสำเนาหน้าบัญชีเคลื่อนไหวย้อนหลัง 3 เดือน (บรรทัดสุดท้ายของบัญชีเป็นวันที่ที่อัพเดตไม่เกิน 15 วันก่อนไปขอวีซ่า) เพื่อความเรียบร้อยของเอกสาร แนะนำให้ศึกษาข้อกำหนดของสถานทูตแต่ละประเทศ
- ประกันการเดินทาง เป็นส่วนสำคัญมาก หากไม่มีอาจโดนปฏิเสธการขอวีซ่าได้ การซื้อประกันต้องระบุให้ครอบคลุมทั้งทวีปยุโรป (ระบุเป็น EUROPE) ตั้งแต่ระยะเวลาไป – กลับ วงเงินคุ้มครองทั้งค่าพยาบาล หรือประกันอื่นๆ ขั้นต่ำ 1,500,000 บาท ( 30,000 ยูโร) สามารถเช็ครายชื่อบริษัทประกันที่สถานทูตรับรองได้จากเว็บไซต์ของสถานทูตประเทศนั้นๆ (สามารถซื้อประกันออนไลน์ และปริ้นท์เอกสารออกมาได้เลย)
- ตั๋วเครื่องบิน ระบุวันเดินทางไป-กลับ อาจเตรียมเป็นแค่เอกสารการจอง (ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินก่อน การขอวีซ่าเชงเก้น ) โดยคุณอาจได้รับการร้องขอให้แสดงตั๋วเครื่องบินจริงที่ชำระเงินแล้วก่อนทำการออกวีซ่า
- แผนการเดินทาง (Itinerary) ระบุวันที่ เมืองที่จะไป เดินทางด้วยพาหนะอะไร รายละเอียดคร่าวๆ ของแพลนเที่ยว ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีตั๋วพาหนะนั้นๆ ประกอบเลย เป็นเครื่องการันตีว่าคุณสามารถเดินทางภายในประเทศเชงเก้นได้
- หลักฐานการจองที่พัก ปริ้นท์ใบจองออกมาเรียงตามแผนการเดินทางของคุณ พร้อมชื่อ, ที่อยู่, อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรม ซึ่งต้องมีรายชื่อผู้เดินทางทุกคนในใบจอง (ควรเลือกจองแบบยกเลิกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เผื่อเปลี่ยนแพลน)
- เอกสารทางราชการ ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง ทะเบียนบ้านตัวจริง ทะเบียนสมรส, ทะเบียนหย่า, ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) พร้อมสำเนา ลงนามสำเนาถูกต้อง
- ค่าธรรมเนียมการออกวีซ่า ค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่าพำนักระยะสั้นอยู่ที่ 60 ยูโร แต่ในบางกรณี อาจจะมีการลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม
- กรอกวีซ่าผิด ในกรณีที่ยื่นข้อมูลทำวีซ่าด้วยตนเองเเล้วไม่ทราบว่าช่องไหนต้องกรอกอะไรลงไปบ้าง ปัญหาในข้อนี้มักเกิดกับผู้ที่ขอวีซ่าเชงเก้นในครั้งเเรก
- เอกสารรับรองทางการเงิน มีปัญหา หรือมีเงินในบัญชีไม่เพียงพอ หรือบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ซึ่งในการยื่นวีซ่านั้นเราต้องมีเงินเคลื่อนไหวในบัญชีไม่ต่ำกว่าหลักแสนบาท และรายรับต้องมีความสอดคล้องกันในทุกเดือนหรือกระโดดจากกันไม่มากนัก
- เอกสารด้านการทำงาน ปัญหาในข้อนี้มักไม่เกิดกับพนักงานออกฟิษ หรือเจ้าของกิจการ แต่อาจมีปัญหาในหมู่คนที่เกษียณอายุแะอาชีพอิสระ อย่างขายของออนไลน์ หรือฟรีแลนซ์ ซึ่งเราก็ต้องแสดงที่มาของรายได้ให้ได้ว่าเงินที่เรากินใช้อยู่ มาจากไหน
- ไม่มีแผนและหลักฐานประกอบการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน โปรแกรมทัวร์ หากเดินทางกับทัวร์ในข้อนี้ก็ไม่ใช่ปัยหา เพราะทางทัวร์จะจัดการเรื่องที่พัก ตั๋วเครื่องบินและโรงเเรมให้อยู่แล้ว แต่กรณีที่เดินทางเองก็ต้องมีเอกสารเหล่านี้เเสดงต่อสถานฑูต
- ขอวีซ่าผิดประเภท ในข้อนี้ต้องดูให้ดีและอ่านให้ละเอียดนะคะ เพราะหากเราไปท่องเที่ยวแต่ยื่นวีซ่าไปทำงานหรือวีซ่านักเรียน อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอนค่ะ
- ไม่มีประกันการเดินทาง/ ประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุม เพราะในการขอวีซ่าจะต้องมีการทำประกันที่ครอบคลุมในเรื่องการเดินทาง วงเงินคุ้มครองทั้งค่าพยาบาล หรือประกันอื่นๆ ขั้นต่ำ 1,500,000 บาท ( 30,000 ยูโร)
- มีปัญหาในด้านสุขภาพ ที่ไม่สามารถเข้าประเทศปลายทางได้ เพราะหากเป็นโรคประจำตัวที่ร้ายแรงก็ต้องมีใบรับรองเเพทย์ในการยื่นเอกสารขอวีซ่าด้วยเช่นกัน
- เคยโดนปฏิเสธวีซ่ามาก่อน ไม่สามารถหาหลักฐานมาหักล้างกับเหตุผลที่วีซ่าที่เคยโดนปฏิเสธครั้งก่อนได้ ในกรณีที่เคยโดนปฏิเสธมาก่อน ก็มีโอกาสสูงค่ะที่จะไม่ผ่านอีกครั้ง
ในส่วนวีซ่าของเอเชียนั้นไม่ยุ่งยากมากเท่าไหร่นัก เพียงเเค่เตรียมเอกสารต่างๆ อย่าง
- พาสปอร์ตตัวจริง ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันยื่นขอวีซ่า
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป ซึ่งจะมีข้อกำหนดในหลายๆอย่าง เช่นห้ามใส่เครื่องประดับ พื้นหลังต้องสีขาวเท่านั้น ต้องเปิดหน้าให้เห็นหู เป็นต้น
- ใบกรอกข้อมูล ห้ามลบ ห้ามกรอกผิดเด็ดขาด
มีหลากหลายเหตุผลที่คุณอาจโดนปฏิเสธวีซ่า แต่แค่เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน แสดงความบริสุทธิ์ใจในการเดินทางไปเที่ยวและหากไม่มั่นใจในการดำเนินขั้นตอนการขอวีซ่าให้ Unithaivisa ช่วยดูแลให้ได้นะคะ