สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคนไทยที่รอไปเที่ยวจีนอยู่ โดยประกาศเปิดรับคำขอวีซ่าประเภท L เพื่อการท่องเที่ยวได้แล้ว รวมถึงวีซ่าประเภทอื่น ๆ ด้วย เช่น วีซ่าเยี่ยมญาติ วีซ่าธุรกิจ วีซ่าทำงาน เป็นต้น ทำให้ก่อนเดินทางเราต้องทำเรื่องขอยื่นวีซ่ากันก่อน แต่ปีนี้ก็มีกฎใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเกี่ยวกับขั้นตอนการขอยื่นวีซ่า แม้ขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ แต่ข้อมูลค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นให้เตรียมตัวและเผื่อเวลากันดี ๆ
1. กรอกแบบฟอร์มขอยื่นวีซ่าผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ปีนี้ไม่รับ Walk-in แล้วนะ ที่เว็บไซต์ -> https://visaforchina.org
2. ทำการนัดหมาย เลือกวันที่ต้องการยื่นวีซ่า
3. เอกสารที่ต้องเตรียมยื่น มีดังนี้
- หนังสือเดินทาง (มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนขึ้นไป)
- รูปถ่ายพื้นขาว 2 ใบ (ขนาด33X48 มม.)
- แบบฟอร์มขอยื่นวีซ่าที่ลงไว้ทางออนไลน์
- ใบจองโรงแรมตลอดการเดินทาง
- ใบยืนยันการนัดหมาย
- เอกสารการจองตั๋วไป-กลับ
หมายเหตุ : กรณีไปกับกรุ๊ปทัวร์ต้องมีหนังสือเชิญวีซ่าแบบกลุ่มที่ออกโดยบริษัทหรือหน่วยงานการท่องเที่ยวในประเทศจีนที่ได้รับการอนุญาต
ขั้นตอนวันที่ยื่นวีซ่า ทำต้องอะไรบ้าง?
เมื่อมาถึงวันนัดให้เผื่อเวลามากันสักนิด เนื่องจากคนค่อนข้างเยอะ มาถึงให้กดบัตรคิวโดยตัวอักษรหน้าบัตรคิวจะไม่เหมือนกัน เช่นนำหน้าด้วย A หมายถึงเดินทางเองไม่ผ่านกรุ๊ปทัวร์ หรือ D ยื่นแบบกรุ๊ป เป็นต้น
ขั้นตอนตรงนี้ให้เตรียมเอกสารให้ครบที่สุด เพราะถ้าพลาดมาคือเสียเวลามาก ๆ โดยชุดเอกสารหลัก ๆ ต้องมีใบขอยื่นวีซ่าที่เราลงผ่านออนไลน์ตั้งแต่ครั้งแรก , รูปถ่ายพื้นขาว 2 ใบ , หนังสือเดินทางที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน , ใบยืนยันการนัดหมาย , เอกสารต่างๆเช่น ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และเอกสารการจองโรงแรม
เมื่อถึงคิวเรียกยื่นเอกสาร หากเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารว่าผ่านหมดแล้วจะให้เราสแกนลายนิ้วมือ เมื่อทำขั้นตอนตรงนี้ครบให้เจ้าหน้าที่จะออกใบ Payment และบัตรคิวให้เราไปชำระเงินอีกช่องหนึ่งเป็นอันเสร็จเรียบร้อยในขึ้นตอนการยื่นวีซ่า อยู่บ้านรอเล่มส่งมาได้เลย
วันเดินทางเข้าประเทศจีน
เมื่อวีซ่าผ่านเรียบร้อยแล้ว ถึงวันที่เดินทางสู่เข้าประเทศจีนจะต้องลงทะเบียนข้อมูลสุขภาพ โดยในข้อมูลที่ต้องกรอกจะมีไฟร์ทบินและเลขที่นั่งด้วย ตรงนี้ต้องใส่ให้ครบจะกรอกจากไทยก่อนขึ้นเครื่อง หรือถึงสนามบินที่จีนแล้วค่อยกรอกก็ได้ ซึ่งตรงนี้ถ้าทำจากไทยเลยจะไม่เวลาลงทะเบียนค่ะ เมื่อลงทะเบียนเสร็จจะได้หน้า QR Code ใช้สแกนข้อมูลไปยังด่านต่อไป
ระหว่างอยู่บนเครื่องจะมีใบ Arrival Card ให้กรอก ซึ่งจริง ๆ แล้วคือตัว QR Code ที่เราลงไว้นั่นแหละ ถึงแม้เราจะมี QR Code แล้ว แต่ตอนที่ไปเจ้าหน้าที่ ตม. ยังขอดูใบ Arrival Card อยู่ ฉะนั้นกันพลาดให้กรอกข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดดีที่สุด เพราะตอนที่ไปเจ้าหน้าที่ยังขอดูอยู่
หลังผ่านด่านแรกมาแล้ว ต่อมาจะต้องมาที่ตู้สแกนนิ้ว เพียงสอดหน้าพาสเข้าไปที่เครื่องข้อมูลทุกอย่างจะขึ้นทั้งหมด หลังจากนั้นให้สแกนลายนิ้วมือตามที่ระบบให้ทำเพื่อยันตัวตนว่าตรงกับลายนิ้วมือตอนยื่นวีซ่าหรือไม่ เมื่อเสร็จแล้วจะได้ใบ Fingerprint Voucher ออกมาเป็นอันเสร็จ สุดท้ายเมื่อถึงด่าน ตม. เจ้าหน้าที่จะขอดูใบ Arrival Card และหนังสือเดินทาง จบขั้นตอนนี้ก็เตรียมตะลุยเที่ยวจีนได้เลยจ้า
และทั้งหมดนี้ คือข้อมูลที่ทาง Unithai Trip อยากจะมาอัปเดตให้คนที่คิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจีนได้ทราบกัน ซึ่งเรายื่นเอง กรอกข้อมูลเอง บินเองทุกขั้นตอน เพื่อที่จะบอกกับทุกคนได้ว่าเป็นอย่างไร และก่อนไปต้องเจอกับอะไรบ้างเพื่อเป็นประโยชน์กับทุกคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไข ยังไงถ้าใครจะไปจีนก็ศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อนเดินทางนะคะ
สุดท้ายใครที่อยากไปจีน แต่ไม่สะดวกทำวีซ่าหรือไปเที่ยวเองไม่ได้ เราพาท่านไปได้นะ โปรแกรมแกรมทัวร์จีนดี ๆ เพียบ ทักสอบถามกันได้เลยจ้า
รวมทัวร์ยุโรป-> Click
รับทำวีซ่าจีน เริ่ม 3,999.- > Click
สนใจ / สอบถามทัวร์อื่น ๆ ได้ที่..
▪️ Line กด -> https://lin.ee/5nDHUO6
▪️ inbox ก็ได้เช่นกัน -> m.me/unithaitrip
☎️ 02-234-5936 กด 1
☎️ 02-632-6882 กด 1
☎️ 091-154-9999 กด 1
🔺ติดต่อแผนกจัดกรุ๊ปเหมา กรุ๊ปส่วนตัว
▪️ Line กด -> CLICK
☎️02-234-5936
☎️02-632-6882
กดได้ตั้งแต่ 201-208
**ขอความกรุณาติดต่อเฉพาะการจัดกรุ๊ปส่วนตัว กรุ๊ปเหมา เท่านั้น ไม่สามารถจองทัวร์หน้าร้านได้