วัดภูทอก ตั้งอยู่ที่บ้านนาคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ 77 ของไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2483 โดยวัดแห่งนี้เป็นสถานที่ปฏิบัติที่มีธรรมสวยงาม เต็มไปด้วยป่าเขา แถมอากาศยังเย็นสบายตลอดทั้งปี
ในภาษาอีสานคำว่าภูทอก มีความหมายว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เพราะที่แห่งนี้สร้างอยู่บนภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ โดยมีภูเขาสองลูกเรียงกันเรียกว่า “ภูทอกใหญ่” และ “ภูทอกน้อย” ซึ่งมองเห็นกันได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้ามพลาด หากใครมาเที่ยวบึงกาฬเลยล่ะ
เริ่มจากก่อนขึ้นไปสู่ยอดภูทอก ใครจะแวะมาไหว้พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ก่อนก็ได้ ซึ่งท่านเป็นผู้เจอสถานที่และได้เข้ามาสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่เกิดจากการนิมิตรเห็น จึงเดินทางมาพิสูจน์ และได้พบกับที่นี่ จนได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อสร้างวัดเจติยาคีรีวิหาร รวมถึงสะพานไม้สุดน่าทึ่ง ที่เปรียบเสมือนสะพานนรก-สวรรค์
เริ่มต้นขึ้นบรรได
ระหว่างทางเดิน
หลังจากไหว้พระด้านล่างเสร็จแล้ว ก็เริ่มเดินขึ้นไปยังยอดภูทอกได้เลย ซึ่งจุดเด่นของภูทอกคือบันไดและสะพานไม้วนแบบ 360 องศา ที่สร้างขึ้นรอบๆเขาหิน โดยมีทั้งหมด 7 ชั้น และใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม โดยไม่ใช้เครื่องจักรกลใดๆเลย สะพานไม้ทั้งหมดเกิดจากฝีมือ และแรงกายแรงใจ รวมถึงภูมิปัญญาของชาวบ้านที่มีความศรัทธาต่อสถานที่แห่งนี้ ใครที่กลัวความสูงเดินขึ้นอาจมีเสียวได้
สะพานไม้ในการขึ้นภูทอกนั้น 7 ชั้นด้วยกัน ซึ่งแต่ละชั้นก็ความแตกต่างกันดังนี้
ชั้นที่ 1 เป็นการเริ่มขึ้นบันไดไม้ โดยจะมีพรรณไม้ต่างๆ หลายสายชนิดให้ชมตลอดทาง
ชั้นที่ 2 เมื่อเดินไปเรื่อยๆ จะเห็นสถานีวิทยุชุมชนของวัดอยู่ด้านขวามือ ซึ่งทัศนียภาพไม่ต่างกับชั้น 1 เท่าไหร่
ชั้นที่ 3 เริ่มมีสะพานเวียนรอบเขา โดยจะมีโขดหิน ลานหิน หน้าผา และไม้ยืนต้นขึ้นกางกิ่งใบให้ร่มเงา
ชั้นที่ 4 จากชั้นนี้มองลงไปข้างล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆ สลับกันเรียกว่า “ดงชมพู” ทิศตะวันออกจรดกับ “ภูลังกา” ชั้นนี้จะมีที่พักของแม่ชีด้วย
ชั้นที่ 5 เป็นที่ตั้งศาลาและกุฏิพระภิกษุสงฆ์ ตามทางเดินมีถ้ำตื้นๆ หลายถ้ำ มีที่นั่งพักได้หลายจุด ถือเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด
ชั้นที่ 6 จะเป็นสะพานไม้แคบๆ ติดกับหน้าผาสูงชัน โดยมีความยาวทั้งหมด 400 เมตร ถึงจะดูน่ากลัวแต่เป็นจุดชมวิวที่ค่อนข้างสวย
ชั้นที่ 7 เป็นทางค่อนข้างชันและเดินลำบาก รวมถึงมีป่าไม้รกทึบ จึงไม่แนะนำให้เดินเท่าไหร่ เพราะอาจได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษ
ระหว่างทางที่ขึ้นภูทอก หากฝนตกยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะทางค่อนข้างลื่น ยิ่งก้อนหินตามขั้นบันไดอาจจะมีตะไคร่เกาะอยู่บ้าง แต่วิวระหว่างทางสดชื่นสุดๆ ถ้าใครได้ขึ้นมาแล้วรับรองว่าวิวที่เห็นทำเอาหายเหนื่อยได้เลย
สุดท้าย เค้ามีความเชื่อกันว่าถ้าใครที่ขึ้นไปถึงจุดสุงสุดของวัดภูทอกแล้ว ถือว่าได้หลุดพ้นจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง เนื่องจากต้องใช้ความพยายามและต้องครองสติระหว่างทางเดินอย่างมากในการขึ้นมาถึงยอดภูทอกได้
และสำหรับใครที่อยากมาเปิดประสบการณ์ ต้องการสัมผัสแดนสวรรค์บนดิน หากมาบึงกาฬแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาชมความงาม ณ วัดภูทอกแห่งนี้กันนะ
💁♀️เรามีโปรแกรมทัวร์บึงกาฬด้วยนะ
กดดู -> bit.ly/3Hy4DtN
👉สนใจจอง / สอบถาม…
▪️จองผ่าน•Line กด-> https://lin.ee/5nDHUO6
▪️Line ID: @unithaitrip ( อย่าลืมเติม @ )
▪️จองผ่าน•inbox กดปุ่ม Send message ใต้ภาพ
☎️ 02-234-5936 ( จ.-ศ. 9.00-20.00)