จากการที่กรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศออกปรกาศเตือนนักท่องเที่ยวห้ามแสตมป์รูปการ์ตูน วาดภาพเล่นหรือขีดเขียน ลงบนเล่มพาสปอร์ตเด็ดขาด หากมีร่องรอยการขีดเขียนนอกเหนือจากตราประทับเข้าของของด่านตรวจคนเข้าเมือง จะถือว่าพาสปอร์ตเล่มนั้นชำรุด และใช้งานไม่ได้อีกต่อไป
หลายคนคงมองว่าที่กรมการกงศุล ออกประกาศเตือนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนทั่วไปทราบกันอยู่เเล้ว แต่ทราบไหมคะ ว่ากรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคนไทยมาแล้ว อย่างกรณีที่สาวคนหนึ่งและกรุ๊ปเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าพื้นที่ไต้หวัน เนื่องจากหนังสือเดินทางมีตราประทับสิ่งแปลกปลอม เป็นตราปั๊มรูปคิตตี้อยู่หน้าสุดท้ายของพาสปอร์ต และนั่นไม่ใช่กรณีเดียวนะคะ
อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่สิงคโปร์ เมื่อหนุ่มไทยคนหนึ่งเดินทางไปสิงคโปรืเป็นครั้งที่ 5แต่ในครั้งนี้เขาโดนปฏิเสธไม่ให้ผ่านด่านและส่งตัวกลับประเทศ ก็เพราะพาสปอร์ตมีตราประทับแปลกปลอมอยู่ เป็นตราปั๊มรูปแมวน้ำ ซึ่งเป็นตราปั้มจากทริปล่าสุดของเขาที่เพิ่งไปอควาเรียมที่ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นมา และมีตราปั้มไว้ใช้ในการเช็คอิน ซึ่งเคยเห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็ปั๊มตรานี้ลงพาสปอร์ตกันทั้งนั้น
แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตม.สิงคโปร์ ได้พิจารณาไม่อนุญาตให้ผ่านด่าน และแจ้งว่าจะส่งกลับเมืองไทย ก่อนจะพาไปห้องรอส่งตัว ที่มีเพียงน้ำเปล่า เตียงนอน ห้องน้ำ กับเปิดหนังให้ดูรอไป 6 ชั่วโมง ก่อนจะถูกส่งตัวกลับบ้าน และไม่เพียงส่งกลับแต่อาจโดนแบล็กลิสต์ชื่อเอาไว้ ไม่ให้เข้าประเทศ 2 ปี เลยนะคะ
ซึ่งทั้งสองเรื่องก็ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งหลายที่อาจเผลอไปประทับตราการ์ตูน หรือเผลอขีดเขียนลงบนพาสปอร์ตได้นะคะ และท่องให้ขึ้นใจว่าหนังสือเดินทางก็คือเอกสารทางราชการที่ควรจะเก็บรักษาให้ที่ดีที่สุด และไม่สมควรจะนำตราประทับอื่นๆ ที่ไม่ใช่สัญลักษณ์การเข้า-ออกผ่านแดนระหว่างประเทศติดลงไปในนั้น ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอย่าง 2 กรณีด้านบนก็ได้นะคะ