มักมีคำถามว่าเด็กทารกสามารถเดินทางได้หรือไม่ คำตอบก็คือได้ค่ะ แต่ต้องได้รับความยินยอมจากคุณหมอเด็กเสียก่อน และก็ค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวหรือทำงานและต้องพาลูกน้อยไปด้วย บางคู่เป็นมือใหม่อาจยังทำตัวไม่ถูก ไม่ทราบว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างกับการพาเด็กขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
วันนี้ Unithait มีวิธีการปฏิบัติเมื่อพาเด็กขึ้นเครื่องไปด้วย ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติสากล ที่ไม่ได้เจาะจงสายการบิน ดังนั้นก่อนเดินทางก็ต้องเช็คข้อปฏิบัติของสายการบินอีกครั้งนะคะ
โดยปกติแล้ว ทางสายการบินจะอนุญาตให้เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไปสามารถเดินทางได้ หากต่ำกว่านั้นจะไม่สามารถเดินทางได้ ทั้งนี้เราขอแบ่งข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางตามช่วงอายุของเด็กให้เข้าใจโดยง่าย
อายุ | ข้อปฏิบัติ |
เด็กอายุตั้งแต่ 14 วัน แต่ไม่ถึง 2 ปีบริบูรณ์ | ค่าตั๋วเครื่องบิน : ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน
การเดินทาง : ในวันเดินทางต้องมีผู้ใหญ่อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเดินทางไปด้วย หากต้องการนั่งบนตักจะอนุญาตให้ผู้ใหญ่ 1 คนต่อเด็ก 1 คนเท่านั้น |
เด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 12 ปีบริบูรณ์ | ค่าตั๋วเครื่องบิน : ค่าโดยสารเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ โดยต้องจองตั๋วเครื่องบินพร้อมกับผู้ใหญ่ที่เดินทางด้วยกันเท่านั้น
การเดินทาง : ในวันเดินทางต้องมีผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์เดินทางไปด้วย |
เด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 16 ปีบริบูรณ์ | ค่าตั๋วเครื่องบิน : ค่าโดยสารเช่นเดียวกับผู้ใหญ่
การเดินทาง : ในวันเดินทางสามารถเดินทางคนเดียวได้ แต่ไม่อนุญาตให้พาเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเดินทางไปด้วยกันได้ |
ซึ่งในการเช็คอินต้องใช้เอกสาร ดังนี้
เอกสารที่ใช้ในการเช็คอิน | อายุ |
เด็กอายุตั้งแต่ 14 วัน แต่ไม่ถึง 7 ปีบริบูรณ์ | – ใบสูติบัตรฉบับจริงหรือพาสปอร์ต |
เด็กอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 15 ปีบริบูรณ์ | – ใบสูติบัตรฉบับจริง – บัตรประชาชนเด็กหรือพาสปอร์ต |
ผู้โดยสารอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป | – บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต |
- นอกจากนี้แล้วก่อนเดินทางคุณพ่อ คุณแม่จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางเป็นทริปที่ประทับใจไม่รู้ลืม
- พาลูกตรวจสุขภาพ ปรึกษาคุณหมอเด็กก่อนพาลูกเดินทาง เพื่อมั่นใจว่าลูกแข็งแรงพอที่จะเดินทางไกลได้
- เตรียมตัวให้ลูกรู้สึกสบาย เช่น แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่นุ่มสบายง่ายในการใส่และถอดออก เตรียมผ้าอ้อมสำเร็จรูปขึ้นเครื่องหากต้องเปลี่ยนเวลาลูกขับถ่าย บนเครื่องจะมีที่ในห้องน้ำสำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อม
- เตรียมอาหารและเครื่องดื่มสำหรับลูกให้เพียงพอ หรืออาจขอความช่วยเหลือจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็ได้เช่นกัน
- เลือกเที่ยวบินที่ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง และให้เลือกเที่ยวบินที่ตรงกับเวลานอนของเด็ก เพื่อป้องกันเด็กงอแงระหว่างอยู่บนเครื่อง และจะได้ลดภาระของคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย
- แจ้งสายการบินล่วงหน้าให้เตรียมที่นอนสำหรับทารกน้ำหนักไม่เกิน 11 กก.
- เผื่อเวลาเพราะเด็กต้องการเวลาเบรค ต้องการอาหารว่าง หนังสือและของเล่นฆ่าเวลา
- เลือกที่นั่งที่ติดทางเดินและใกล้ห้องน้ำ เพื่อเวลาที่เด็กงอแง ร้องไห้ ขยับตัวบ่อย แล้วคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องลุกขึ้นเพื่ออุ้มและกล่อมลูกจะได้ไม่รบกวนผู้ที่นั่งข้างๆ และสามารถพาเด็กเข้าห้องน้ำได้ง่ายด้วย
- หากคุณแม่ยังอยู่ในช่วงให้นมลูกอยู่ แนะนำให้เตรียมผ้าคลุมให้นมไปด้วย หรือให้ลูกกินนมจากขวดนมแทน หรือหากต้องการชงนมสามารถขอน้ำร้อนบนเครื่องได้เลย และต้องให้เด็กดื่มนมบ่อยๆ เพราะทารกสูญเสียน้ำออกจากร่างกายได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ แต่อย่าให้ดื่มมากเกินไป
- ในช่วงที่เครื่องบินเปลี่ยนระดับจะมีเสียงดังและระดับความดันอากาศเปลี่ยน ส่งผลให้เด็กปวดหู คลื่นไส้ และงอแงได้ ดังนั้นควรเตรียมขวดน้ำหรือจุกหลอกให้เด็กดูดในช่วงที่เครื่องบินเปลี่ยนระดับด้วย
- สำหรับรถเข็นเด็กให้คุณพ่อคุณแม่แจ้งกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินตอนเช็คอินว่ามีรถเข็นเด็กมาด้วย ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่สามารถเข็นรถขึ้นไปถึงหน้าทางเข้าเครื่องได้เลย และเจ้าหน้าที่จะนำไปเก็บให้ เมื่อถึงตอนลงจากเครื่องเจ้าหน้าที่ก็จะเอารถเข็นมาให้เราที่หน้าเครื่อง
- นำของเล่นชิ้นโปรดของเด็กติดขึ้นเครื่องไปด้วย เช่น ตุ๊กตา จุกหลอก ฯลฯ เพื่อเอาไว้เบี่ยงเบนความสนใจของเด็กระหว่างอยู่บนเครื่อง
เป็นข้อแนะนำดีๆ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวในเบื้องต้นในการพาเด็กไปต่างประเทศ เพื่อให้ทริปที่เกิดขึ้นเป็นทริปที่ประทับใจและสร้างความมั่นใจให้คุณพ่อ คุณแม่ในการเดินทางกับเด็กน้อยอีกด้วยค่ะ