เวลาเดินทางด้วยเครื่องบิน หลายคนต้องเคยประสบปัญหาโดนเจ้าหน้าที่สนามบินทิ้งขวดโลชั่น ขวดน้ำหอมที่ซื้อมาใหม่ใช่ไหมคะ เพียงเพราะเราลืมโหลดได้เครื่อง นั่นก็เพราะกฏหมายสากลของสายการบิน มาดูกันว่า เงื่อนไขการนำของเหลวขึ้นเครื่องมีอะไรบ้าง
- ของเหลว เจล และสเปรย์ทุกชนิด ต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาด ความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร สำหรับภาชนะที่เกิน 100 มิลลิลิตร แม้จะบรรจุของเหลว เจล และสเปรย์ เพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้
- ของเหลว เจล สเปรย์ที่มีความจุเกิน 100 มิลลิลิตร ต้องบรรจุในกระเป๋าสัมภาระที่ท่านจะบรรทุกลงใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อผ่านขั้นตอน เช็คอิน เท่านั้น
- ภาชนะทั้งหมดต้องใส่รวมกันไว้ในถุงพลาสติกใส ซึ่งเปิด – ปิด ผนึกได้ และมีความจุรวมกันไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร
- ผู้โดยสารสามารถนำถุงพลาสติกใสขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ถุง โดยต้องแยกออกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ณ จุดตรวจค้น
- ของเหลวที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ นม และอาหารสำหรับเด็กทารก ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงยาที่มีเอกสารกำกับชัดเจน
- ของเหลว เจล สเปรย์ ที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty free shops) ณ ท่าอากาศยาน อนุญาติให้นำขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องบรรจุในถุงพลาสติกใส ปิดผนึกปากถุง ไม่มีร่องรอยการแกะ การฉีกขาด หรือการเปิดปากถุง และมีหลักฐานแสดงว่าได้ซื้อในวันที่เดินทาง เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจค้น
เเล้วสงสัยไหมทำไม ของเหลวที่นำขึ้นเครื่องบิน ต้องไม่เกิน 100 มิลลิลิต ก็เพราะของเหลวที่มีปริมาณเกินกว่า 100 มิลลิลิตร สามารถนำไปใช้เป็นสารประกอบระเบิดได้ กรมการขนส่งทางอากาศ ในประเทศไทย จึงออกมาตรการห้ามนำของเหลวขึ้นเครื่องบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ ตามกฎระเบียบขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2550
เคยสงสัยไหม ทำไมของเหลวใน Duty Free จึงนำขึ้นเครื่องได้?สินค้าที่เป็นของเหลว ที่วางขายในร้านดิวตี้ฟรีทุกชนิด จะผ่านการตรวจสอบจากทางท่าอากาศยานอยู่แล้ว และเมื่อนำสินค้าขึ้นเครื่องจะมีถุงใส่ให้อย่างมิดชิด มีตราประทับเพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของของเหลวที่จะนำขึ้นเครื่อง