วันหยุดมีเหลือคิดไม่ออกว่าไปไหน ก็ไปไต้หวันกันเหอะ ไต้หวัน ปลายทางยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องไปเช็คอินให้ได้ ไต้หวันไม่ได้มีแค่ตึกไทเป แต่ไต้หวัน มีทั้งธรรมชาติ อาหารหลากหลายที่รสชาติสุโค้ย ทริปนี้ของพาเที่ยวแบบฉบับไปกับทัวร์ 3 วัน 2 คืน ตามมาเลย
วันหยุดมีเหลือคิดไม่ออกว่าไปไหน ก็ไปไต้หวันกันเหอะ ไต้หวัน ปลายทางยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องไปเช็คอินให้ได้ ไต้หวันไม่ได้มีแค่ตึกไทเป แต่ไต้หวัน มีทั้งธรรมชาติ อาหารหลากหลายที่รสชาติสุโค้ย ทริปนี้ของพาเที่ยวแบบฉบับไปกับทัวร์ 3 วัน 2 คืน ตามมาเลย
สถานที่หลักๆที่เราไปกันนะคะ
- ล่องเรือทะเลสาบสุริยัน จันทรา – วัดพระถังซัมจั๋ง – วัดเหวินอู่
- อุทยานเหย่หลิว -หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น -อนุสรณ์เจียงไคเช็ค
- ช้อปปิ้งตลาดฝ่งเจี่ยไนท์มาร์เก็ต และ ซีเหมินติงไนท์มาร์เก็ต
จริงๆเเล้วทริปนี้ เราเริ่มเดินทางกันเย็นวันพฤหัส และกลับมาวันอาทิตย์ไฟลท์ค่ำๆหน่อย จริงๆนับๆก็คือ 4 วัน แต่พฤหัสบินดึกเราเลยไม่นับจ้า ไปถึงตอนดึกก็เลยต้องเก็บเเรงกันก่อนจ้า ก่อนที่ตอนเช้าเราจะไปล่องเรือทะเลสาบสุริยัน จันทรากัน
ก่อนจะไปล่องเรือก็ต้องเเวะร้านชากันก่อน ร้านชานี้เป็นของชาวเผ่าพื้นเมือง ที่เรียกกันว่าชนเผ่าเซ้าจู๋ ชนเผ่าพื้นเมืองไต้หวัน โดยในปัจจุบันชนเผ่านี้มีจำนวนเหลือน้อยที่สุดในไต้หวัน เหลือเพียง 200-300 คนแต่ยังคงมีประเพณีเเละวัฒนธรรมที่น่ารัก ร้านนี้ได้รับการสนับนุนจากรัฐบาลไต้หวัน ในการส่งเสริมอาชีพชนพื้นเมืองนั่นเอง ที่นี้ขายทั้งชาเห็นหลินจื้อ ของขึ้นชื่อ แหวน สร้อยคอหยก เป็นต้น
นี้คือการแต่งกายแบบชาวเซ้าจู๋อุปกรณ์ เครื่องใช้ ที่ทางชนเผ่าผลิตเองต้นเห็ดหลินจื้อ
หลังจากแวะร้านชาแล้ว ก้ได้เวลาล่องเรือทะเลสาบกันแล้วค่ะ เราใช้เวลาล่องเรือประมาณ 30 นาทีนะคะ ตอนล่องเรือเราจะเห็นว่าน้ำทะเลสาบมันเป็นสีเขียวมรกตเเบบในภาพเลย เวลาขึ้นเรือจะมีเป็นรอบๆ แต่หากเราไปกับคณะทัวร์บนเรือของเราจะมีไกด์ไปด้วย หลังจากที่ล่องเรือไปอีกฝั่ง ก็เจอกับวัดพระถังซัมจั๋ง ที่ต้องเดินบันไดกว่า 700 ขั้นขึ้นไป แต่ก่อนทางขึ้นเราจะเจอกับร้านไข่ต้มชาเจ้าแรก เจ้าต้นตำรับของไต้หวันที่เป็นของคุณยาย จนตอนนี้คุณยายก็ยังคงเเวะเวียนมานั่งอยู่ที่ร้านบ้าง ถ้าใครไปแล้วเจอคุณยายก็เข้าไปขอถ่ายรูปได้เลยนะคนในรูปหน้าร้านนั่นแหละเจ้าตำรับเลยทางขึ้นวัดนั่นเองเดินบันไดขึ้นไป เราก็เจอกับวัดพระถังซัมจั๋ง และวิวร้อยล้านแบบนี้เลย ขากลับเราก็แวะไปวัดเหวินอู่หรือวัดกวนอูเป็นที่ประดิบฐานรูปปั้นของหาสดาขจื้อกพจ้ห่งปัญญาและเทพกวนอูซึ่งเป็นเทพเจ้าที่มีอุปนิสัยเป็นรักษาคำพูดด้วยชีวิตรักคุณธรรมชาวจีนและชาวได้หวันจึงนับถือเป็นเทพเจ้าแห่งความชื่อสัตย์ หน้าวัดมีด้ววิหารใหญ่แบ่งออกเป็นสามชั้น
ประตูทางเข้าวัดก็จะใหญ่โตแบบนี้ วัดจะหันหน้าไปทางทะเลสาบสุริยัน จันทรา ถ้าอากาศไม่ร้อนจะสวยมากจ้า หิน สัญลักษณ์ของทะเลสาบที่ใครมาก็ต้องเเวะเวียนมาถ่ายรูปคู่ กับหินแห่งนี้ จริงๆมีหลายจุดเลย บนวัดพระถังซัมจั๋งก็มีนะ หมดโปรแกรมวันนี้แล้ว ก่อนเข้า โรงแรมทางทัวร์ก็พาเราไปแวะตลาดฝ่งเจี่ยไนท์มาร์เก็ต หาของกินอร่อยๆกัน ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ทัวร์ปล่อยให้เราอิสระเลยจ้า ใครอยากกินอะไร อยากนั่งชิลคาเฟ่ไหน อยากกินชาไข่มุกก็ไปเลยจ้า ตอนไปตลาดกำลังเพิ่งตั้งจ้า ของก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่
ร้านทาโกะที่อร่อยในย่านนี้ หลังจากที่เราไปต่อเเถวซื้อเสร็จ หันหลังกลับไปคนต่อคิวยาวมากก
หน้าตาทาโกะที่นี้ตู้กาชาปองแบบนี้มีอยู่ทั่วไปเลยชาที่เล่ากันมาว่าอร่อยที่สุดในย่านนี้ ตอนไปซื้อก็ยังไม่มีคนเช่นกันจ้า หลังจากซื้อเสร็จคนก็ต่อคิวเเน่นเช่นเดิม
หลังจากอิ่มหน่ำ สำราญกันแล้วก็เข้าที่พักค่ะ คืนนี้เราจะพักกันที่ไทเปเลย เพื่อตอนเช้าจะได้เดินทางไปที่อุทยานธรณีเหย่หลิ่ว 1 ในสาม อุทยานที่ขึ้นชื่อของไต้หวัน อุทยานธรณีเย่หลิว (Yehliu Geopark, 野柳地質公園) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเมืองนิวไทเป (New Taipei City) เขตตำบลว่านหลี่ (Wanli District) ด้วยความโดดเด่นทางธรณีวิทยากับหินรูปร่างแปลกตา ซึ่งภูมิทัศน์หินของเย่หลิวถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
ตอนกลางวันที่ไป อากาศจะร้อนมาก ใครที่เดินไปดูหินรูปร่างต่างๆตรงสถานที่จริงไม่ไหว ทางอุทยานก็มีการทำแบบจำลอง อย่างหินเจ้าหญิง หินเศียรราชินี แบบจำลองให้ถ่ายรูปตรงระหว่างทางเดินนะคะ ไม่ต้องทนร้อน ก็แวะไปเก็บรูปกันได้เลยจ้า
หลังจากออกจากอุทยาน เราก็ไปต่อกันที่หมู่บ้านโบราณอย่างจิ่วเฟิ่น แต่ด้วยเวลากระชั้นชิดของทัวร์ทำให้เราไม่ได้ขึ้นไปปล่อยโคมไฟที่หมู่บ้านโบราณ เสียใจฝุดๆ แต่เราก็ไม่พลาดของกินขึ้นชื่อนะคะ บัวลอยเย็น ซึ่งอร่อยมาก มาไต้หวันเราสั่งภาษาไทยได้เลย เพราะคนที่นี้พูดไทยได้ มันไม่ใช่เยาวราชบ้านเราน๊า ของขึ้นชื่อเลย บัวลอยเย็น ลักษณธเหมือนบัวลอยบ้านเราเลย แต่จะมีน้ำแข็งเเละใส่ไส้ได้พร้อมถั่วแดงเป็นท็อปปิ้ง
ออกจากจิ่วเฟิ่น ก็มุ่งหน้าไปที่ อนุสรณ์เจียงไคเช็ค สถานที่ที่เป็นสัญญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1976 เพื่อเป็นการรำลึกอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชก เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางของจตุรัสเสรีภาพ(Freedom Square) มีบันไดด้านหน้า 89 ขั้นเท่ากับอายุของท่านประธานาธิบดี โดยภายในจะมีรูปปั้นทำจากทองสัมฤทธิ์ของท่านในท่านั่งขนาดใหญ่ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากรูปปั้นของท่านในที่อื่นๆ
เเละก่อนกลับเราจะพลาดไม่ได้ก็คือ บะหมี่อาจง เจ้าเก่าแก่ ราคากับคุณภาพมันช่างคู่ควรมากเลยจ้า ปิดท้ายทริปนี้กันไปเลยกับบะหมี่และตั้งใจว่าทริปหน้าจะกลับมาไต้หวันอีกครั้งพร้อมทริปกินแบบถล่มทลายเลยจ้า เเละนอกจากอาหารที่ขึ้นชื่อ ไต้หวันยังขึ้นชื่อเรื่องวัดวา และความเชื่อเรื่องความรักด้วยน๊า ใครที่โดนเท หรือเป็นพญานก เชื่อสิมาที่นี้น่าจะได้ไปสักคน
มีทัวร์ไปอูไหล ไหมครับ ที่พัก 1 คืน
อูไหล คือเเถวไหนนะคะ